POLITICS

‘วิโรจน์’ นำ ‘พีรพล’ ทวงถาม กกต.ตัดสิทธิ์สมัคร ส.ก.ปมหุ้นสื่อแม้ปิดกิจการไปเกือบ 30 ปี

‘วิโรจน์’ นำ ‘พีรพล’ ทวงถาม กกต. ตัดสิทธิ์ผู้สมัคร ส.ก. ก้าวไกล ปมหุ้นสื่อ แม้ปิดกิจการไปเกือบ 30 ปี จ่อฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง

วันนี้ (22 เม.ย. 65) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยพีรพล กนกวลัย ผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท และผู้สมัคร ส.ก. จากพรรคก้าวไกลจำนวนหนึ่ง เดินทางไปยังที่ทำการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ อาคาร B เพื่อยื่นหนังสือทวงถามความยุติธรรมต่อ กกต. กรณีไม่พบชื่อ พีรพล กนกวลัย เป็นผู้สมัคร ส.ก.พรรคก้าวไกล หลังมีการยื่นหนังสืออุทธรณ์ไปเมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา เนื่องจากกรณี กกต.ตรวจสอบพบว่าเป็นผู้มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 50 (3) แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 “เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ” ซึ่งพีรพลได้ยอมรับว่าเคยยื่นจดแจ้งการพิมพ์หนังสือพิมพ์ หรือเป็นเจ้าของกิจการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา และบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ ‘ท่องธรรมชาติ’ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 และสิ้นสุดการเป็นเจ้าของกิจการตาม พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.2484 มาตรา 45 หลังตีพิมพ์วารสารได้เพียง 6 ฉบับและยุติกิจการในปีเดียวกัน

หลังจากที่มีการยื่นหนังสืออุทธรณ์ไปเมื่อวันที่ 12 เมษายน กลับยังไม่พบรายชื่อของพีรพล ลงรับเลือกตั้งส.ก.เขตพญาไท ทำให้วิโรจน์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ได้เดินทางมาร่วมยื่นหนังสืออุทธรณ์คำวินิจฉัยที่ กกต. พร้อมผู้สมัคร ส.ก. อีกหลายรายเข้าร่วมให้กำลังใจพีรพลด้วย

วิโรจน์ ระบุว่า ท่าทีของ กกต. กระทบสิทธิของพีรพลอย่างร้ายแรง เนื่องจากข้อกฎหมายเขียนไว้อย่างชัดเจน ว่าสิ้นสุดการเป็นเจ้าของกิจการโดยสมบูรณ์ เชื่อว่าเป็นความบกพร่องของฐานข้อมูล พร้อมกันนี้วิโรจน์ยังได้ยกกรณีความผิดพลาดของ กกต. ที่แจกใบส้มให้กับผู้สมัคร ส.ส. เชียงใหม่ เขต 8 เป็นตัวอย่างความเสียหายและการวินิจฉัยที่ไม่เป็นธรรม ทำให้เกิดความเสียหายกับหลายฝ่าย

ส่วนพีรพล ยืนยันว่า ไม่เคยใช้สื่อนี้เพื่อหาเสียง อีกทั้งวารสารหัวนี้เกิดขึ้นเมื่อ 28 ปีที่แล้ว และเป็นเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติ ไม่มีความเกี่ยวข้องทางการเมืองและไม่เคยใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการเมืองแต่อย่างใด พีรพล เชื่อว่าการพิจารณาเช่นนี้ไม่ถูกต้องและเป็นธรรม หาก กกต. ยังไม่พิจารณาตามหลักกฎหมายและข้อเท็จจริง ตนก็พร้อมดำเนินคดีทางแพ่งกับ กกต. เพื่อปกป้องสิทธิและความยุติธรรมให้กับตัวเอง รวมถึงที่ผ่านมาตนเคยได้รับเลือกเป็น ส.ก. ถึง 2 สมัย จึงมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองที่มุ่งโจมตีตนและพรรคก้าวไกล ย้ำ อยากให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเลือกผู้สมัคร ไม่ใช่ถูกกฎหมาย หรือผู้อื่นตัดสิทธิ์และตัดสินไปก่อน

ทิ้งท้าย วิโรจน์ตั้งข้อสงสัยว่า นี่คือการจงใจทำลายพลังทางการเมืองของพรรคก้าวไกลโดยองค์กรอิสระหรือไม่ เพราะ พีรพล คือหนึ่งในผู้สมัคร ส.ก. ที่ทำงานในพื้นที่มายาวนาน อีกทั้งยังเป็นพลังสำคัญในการเลือกตั้งครั้งนี้ วิโรจน์จึงเดินทางมาที่ กกต. ในวันนี้ เพื่อเรียกร้องให้กกต. ตรวจสอบคำวินิจฉัยยึดตามหลักกฎหมายและข้อเท็จจริงเพื่อความเป็นธรรมกับผู้สมัครโดยด่วน

Related Posts

Send this to a friend