‘รังสิมันต์’ ไม่คอนเฟิร์ม ‘พล.อ.ประวิตร’ อภิปรายต่อ ‘ณัฐพงษ์’
ขอรอจัดลำดับ มั่นใจ ข้อมูลหลักฐาน ยุทธการโรยเกลือเอาผิดนายกฯ ปัดตอบ ‘เฉลิม’ ร่วมอภิปราย หากจริงต้องหารือก่อน มองนายกฯ นัดกินข้าวพรรคร่วม สะท้อนหวั่นไหว ไม่ไว้ใจกันและกัน
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงการเตรียมตัวการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ว่า ในทุกเรื่องที่เป็นความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงความล้มเหลวแก้ปัญหาต่าง ๆ เป็นเรื่องที่เราสามารถหยิบขึ้นมาอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทั้งสิ้น และการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือเรื่องที่เป็นปัญหาที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า วันที่ 24 มี.ค. เป็นวันที่เราเตรียมขุนพลเอาไว้มากมายในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเริ่มต้นจาก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ในการอ่านญัตติ หลังจากนั้นมีอีกหลายคนที่อภิปราย ค่อนข้างมั่นใจในพยานหลักฐานต่าง ๆ และจะยุทธการ ‘โรยเกลือ’ จะเป็นการดำเนินการทางกฎหมายต่อไปกับนายกรัฐมนตรี
นายรังสิมันต์ ยังไม่คอนเฟิร์มว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะอภิปรายต่อจากนายณัฐพงษ์ เบื้องต้นขอให้รอการสรุปก่อน เพราะตอนนี้ยังไม่ได้สรุปในเรื่องการจัดลำดับผู้อภิปราย แต่เร็ว ๆ นี้จะมีการสรุปออกมา และมีความเป็นไปได้ว่าการอภิปรายของหัวหน้าพรรคต้องให้ลำดับต้น ๆ อยู่แล้ว
ส่วนกระแสข่าวที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะอภิปราย เบื้องต้นคนที่จะอภิปรายต้องมีการส่งชื่อ เข้าใจว่าการส่งรายชื่อยังไม่แล้วเสร็จ ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม หรือไม่ หากเขาขอมาเบื้องต้นก็ต้องคุยกับแกนนำพรรคประชาชนด้วยว่าสุดท้ายจะให้หรือไม่ อย่างไร อาจจะต้องคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย เพราะเวลาเป็นไปตามสัดส่วนของทุกพรรค ไม่มีโควตาของฝ่ายรัฐบาล
นายรังสิมันต์ ยอมรับว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจในรอบนี้ ฝั่งรัฐบาลส่งสัญญาณถึงความกังวลเป็นพิเศษ คิดว่ามากกว่าเมื่อเทียบกับรัฐบาลที่แล้ว รัฐบาลนี้ส่งสัญญาณถึงความกังวลและเครียดกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาก ตั้งแต่ตอนที่เสนอญัตติที่บอกว่าต้องถอนชื่อ ‘ชายคนนั้น’ หรือเรื่องที่ประธานสภาฯ พยายามบอกว่าญัตติบกพร่อง ล่าสุดบอกแก้ญัตติไม่ชอบ ทั้งที่ประชุมหารือกับประธานสภาฯ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และถามย้ำหลายรอบ จนมาถึงการประกาศองครักษ์พิทักษ์นายกฯ 20 คน
อย่างไรก็ตาม ภาพของการเตรียมกำลังขุนพลขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่พร้อมที่จะชี้แจงใช่หรือไม่ ไม่พร้อมที่จะตอบคำถามใช่หรือไม่ และไม่พร้อมที่จะอธิบายตามข้อกล่าวหาต่าง ๆ ใช่หรือไม่ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนี้กลัวเหลือเกินในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ และยิ่งสะท้อนว่าการมีนัดดินเนอร์ หรือพูดคุยอะไรต่าง ๆ แสดงถึงความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันของคนในรัฐบาลแม้จะมีการตั้งรัฐบาลร่วมกันก็ตาม