เลขาธิการ ป.ป.ช. ยกคำวินิจฉัยกรณี ‘ปารีณา-กนกวรรณ’ เป็นเคสตัวอย่าง พร้อมสั่งไต่สวน ส.ส. – สว. อีก 7 ราย
วันนี้ (22 ก.พ. 66) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกา มีคำพิพากษาว่านางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในความผิดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงจากกรณีการครอบครองพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยระบุว่าศาลฎีกาเชื่อการแปลวิเคราะห์ภาพถ่ายของ ป.ป.ช. ที่ใช้ภูมิศาสตร์สารสนเทศเข้าตรวจสอบพื้นที่ที่นางกนกวรรณอ้างว่าซื้อมาจากบิดา และทำประโยชน์โดยปลูกพืชผลอาสิน
จากการตรวจสอบไม่พบปลูกพืชผลตามที่กล่าวอ้าง ศาลจึงวินิจฉัยตามหลักฐานของ ป.ป.ช. และเป็นแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ เพราะการตรวจพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นอกจากยังมีข้อกล่าวหาการครอบครองที่ดินอีก 4 แปลงที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช.
ด้านนายมงคล ศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดภาพทางอากาศ พร้อมยืนยันว่าพื้นที่ที่นางกนกวรรณครอบครองเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไม่มีสภาพพื้นที่ว่าง ไม่สามารถทำการเกษตรได้ มีความพยายามแก้แนวเขตออกโฉนดแปลงนี้หลายครั้งจนรุกล้ำเข้าไปในเส้นเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่แบ่งไว้เมื่อปี 2535 ซึ่งการวินิจฉัยในวันนี้เป็นความผิดจริยธรรม ยังมีในส่วนของคดีอาญาที่อยู่ระหว่างการพิจารณาสืบพยานฝ่ายโจทก์ยังไม่ถึงขั้นตอนการสืบพยานฝ่ายจำเลย ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา
นายนิวัตไชย เปิดเผยอีกว่า เมื่อวานนี้ ป.ป.ช. ได้มีการสั่งไต่สวนคดีจริยธรรมกับ ส.ส. และ สว. กรณีการครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบอีก 7 ราย โดยเป็นคดีลักษณะเดียวกับนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ และ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ซึ่งเป็นคดีตัวอย่างกับการดำเนินคดีกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แม้ว่าตำแหน่งในขณะนั้นไม่ได้เอื้อต่อการกระทำความผิดแต่ยังครอบครองต่อเนื่องจนเข้ามาดำรงตำหน่งทางการเมืองก็ถือว่ากระทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงเช่นกัน
