นายกฯ กล่าวปาฐกถา ประเทศไทย : โอกาส – ความหวัง-ความจริง ย้ำ รัฐบาลอยู่ครบเทอม
นายกฯ กล่าวปาฐกถา “ประเทศไทย : โอกาส – ความหวัง-ความจริง” ย้ำบนเวทีโลก รัฐบาลอยู่ครบเทอม สานต่อนโยบาย ‘เศรษฐา’ เผย อีก 10 ปีก๊าซธรรมชาติหมดอ่าวไทย ต้องตั้งคณะกรรมการเจรจากัมพูชาแบ่งผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่เกี่ยวเกาะกูดยังเป็นของไทย เตรียมแถลงผลงานรัฐบาล 90 วัน พร้อมประกาศของปีใหม่ 12 ธ.ค. นี้
วันนี้ (21 พ.ย. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานสัมมนา PRACHACHAT THAILAND 2025 โอกาส – ความหวัง – ความจริง และกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “ประเทศไทย : โอกาส – ความหวัง – ความจริง” ณ ห้อง Ballroom 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถนนรัชดาภิเษก เขตคลองเตย กรุงเทพฯ โดยมี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะในครั้งนี้
นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงได้เยี่ยมชมบูธหนังสือ พร้อมอุดหนุนสมุดวาดเขียนระบายสี และหนังสือท่องเที่ยวสำหรับเด็ก ไปฝากลูก และหนังสือของตัวเองเป็นหนังสือเกี่ยวกับภูมิรัฐศาสตร์โลก
จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถา ว่า โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายและกลับมาจากเปรู ได้คุยกับผู้นำทั่วโลก ซึ่งรัฐบาลมองเห็นโอกาสที่จับต้องได้ รัฐบาลเชื่อมั่นมาตลอดว่าคนไทยมีศักยภาพ รัฐบาลจึงตั้งเป้าหมายว่าจะต้องกระจายโอกาส โดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ ไปให้ถึงประชาชนทุกคน อย่างเท่ากันทั้งประเทศ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหาความยากจน ให้สำเร็จภายใต้ข้อจำกัดที่มี ทำงานกันอย่างเต็มที่ ไม่ใช่เพียงวิธีเดียว และสิ่งแรกที่รัฐบาลต้องการทำคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะหากท้องอิ่มศักยภาพก็จะถูกผลักดันออกมาทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์มีแรงที่จะผลักดันประเทศ และลดความเหลื่อมล้ำ
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระบุไว้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอยู่ที่ 2.7 ซึ่งอยู่ในช่วงฟื้นตัว ซึ่งในไตรมาส 3 ปีนี้ อยู่ที่ 3% ถือว่าอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัว โดยรายได้หลักของปีนี้มาจากการท่องเที่ยว ที่ยอดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากกว่า 28 % จากปีที่แล้ว คาดว่าในปีนี้จะมียอดนักท่องเที่ยวสูงถึง 36 ล้านคน และภาคการท่องเที่ยวของเรากำลังกลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ผลลัพธ์นี้ เกิดจากนโยบายด้านการท่องเที่ยว วีซ่าฟรี การพัฒนาการบริการของสนามบิน นโยบาย Festival Country ที่ทำต่อเนื่อง
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในระหว่างที่เยือนต่างประเทศ ได้มีการแลกเปลี่ยนกับผู้นำระหว่างประเทศ ซึ่งตนพยายามย้ำว่าสถานการณ์ทางการเมืองมีเสถียรภาพ มากยิ่งขึ้นนักธุรกิจต่างชาติก็จะมั่นใจ ตนมีหน้าที่เคยบอกทุกคนให้เชื่อมั่น ว่ารัฐบาลจะอยู่ยันคบเธอไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย และสิ่งที่นายเศรษฐา ทวีสิน เคยไปบอกทั่วโลกตนก็จะสานต่อ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองของสหรัฐอเมริกา หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง ที่เขามีนโยบายพุ่งเป้าที่ประเทศเกินดุลการค้ากับอเมริกา ทั้ง จีน เม็กซิโก ญี่ปุ่นรวมถึงประเทศไทยด้วย ประเทศเหล่านี้ จะได้รับผลจากมาตรการกีดกันทางการค้าอย่างแน่นอน
นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำ ถึงโอกาสของประเทศ ซึ่งมีอยู่ 3 ทาง ประกอบด้วย โอกาสในอาหาร ที่จะต้องมีการพัฒนาแบบภาพรวมผ่านการใช้เทคโนโลยีเพื่อยืดความสดและปลอดภัยของอาหาร และพยายามฟื้นครัวไทยสู่ครัวโลก การขายอาหารสำเร็จรูปทั้งครึ่งสมุนไพร และเครื่องปรุง รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของเชฟ ผ่านโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟ
เรื่องโอกาสในสุขภาพ หรือ Wellness อย่างนโยบาย 30 บาทที่ถูกยกระดับเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ ให้ทุกคนเข้าถึงอย่างง่ายดายและไม่เสียเวลา ซึ่งทั่วโลกมีการยอมรับและต้องการศึกษาว่าจะทำอย่างไรได้บ้างให้นโยบายประมาณนี้ ขณะเดียวกันหมอในประเทศไทยมีศักยภาพสูง ได้รับการยอมรับจากชาวต่างชาติและต้องการเข้ามารักษาอย่างประเทศไทย จึงจำเป็นต้องพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ นอกจากนี้ในส่วนของมวยไทย ที่ยุโรปมีค่ายมวยกว่า 40, 000 แห่ง ที่ต้องรับการพัฒนาศักยภาพเพื่อให้ได้รับการรับรองต่อไป พร้อมกับส่งเสริมพืชสมุนไพรเพื่อให้เป็นยารักษาโรค เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ และโอกาสในอุตสาหกรรมที่สร้าง Soft Power ซึ่งวัฒนธรรมของไทยมีเสน่ห์ที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจ จึงจำเป็นต้องผูกวัฒนธรรมของแต่ละภูมิภาคให้เข้าด้วยกันเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว พร้อมกับส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยเพิ่มของกองถ่ายจากต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการขยายการจ้างงานในพื้นที่ ส่วนภาพยนตร์ของไทยเองก็จะมีการสนับสนุนเนื่องจากปัจจุบันได้รับการชื่นชมจากต่างประเทศอย่างเรื่องหลานม่า ขณะเดียวกันเกมของไทยสามารถเป็นสิ่งอำนวยการผลักดันสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศ
เรื่องพลังงาน ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย วันหนึ่งก็จะหมดไป เนื่องจากการประมาณการคาดว่า 10 ปีก๊าซจะหมด เพราะฉะนั้น MOU 44 ที่เป็นกระแสที่เรากำลังพูดคุยกับกัมพูชาจำเป็นว่าจะต้องพูดคุยกันว่าจะแบ่งการใช้ก๊าซธรรมชาติร่วมกันได้อย่างไรจึงต้องสร้างคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพูดคุยในเรื่องนี้ ป้อมยามว่าเกาะกูดไม่เกี่ยวเกาะกูดไม่ใช่อย่างไรก็เป็นของใครอยู่แล้ว ขณะที่พลังงานสะอาดเป็นเทรนด์ของโลก รัฐบาลทั้งวันสนับสนุนโซล่าเซลล์ ให้มากขึ้นรวมถึง และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
นายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงท้ายว่า รัฐบาลจะมีการแถลงสิ่งที่จะมาในรัฐบาลมีครบ 90 วันในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ได้รับรองว่าจะมีเรื่องของนโยบายดีๆมาเล่าให้ฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต และแน่นอนว่าจะมีเรื่องของขวัญปีใหม่ว่ารัฐบาลจะมอบของขวัญอะไรให้กับประชาชน