‘มงคลกิตติ์’ ขอบิณฑบาตประเทศจากนายกฯ ลาออกเสียที อยู่มา 8 ปี ไร้ประโยชน์
‘มงคลกิตติ์’ ชูพระพุทธรูป ขอบิณฑบาตประเทศจากนายกฯ โอดลาออกเสียที อยู่มา 8 ปี ไร้ประโยชน์ อัดมีตาขาวกว่าตาดำ กลัวโดนลอบสังหาร ถ้าชวนไปดูหนังกลางแปลงด้วยกันก็คงไม่กล้า
วันนี้ (21 ก.ค. 65) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี (รมต.) เป็นรายบุคคล วันที่สาม นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในข้อหาทุจริตเพื่อได้มาซึ่งอำนาจ บริหารทรัพยากรธรรมชาติแบบแบ่งเค้กกันไปทุจริตเพื่อพยุงอำนาจตนเอง ด้อยปัญญาในการบริหารเศรษฐกิจ ไร้วิธีหาเงินเก่งแต่สร้างหนี้ให้ประเทศ ทำประชาชนสิ้นหวัง
นายมงคลกิตติ์ อภิปรายว่า พลเอก ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งมา 7 ปี 10 เดือน 27 วัน พิสูจน์แล้วว่าอยู่ไปก็ไม่เกิดประโยชน์กับบ้านเมือง เปลืองภาษี ลงพื้นที่ทีก็กลัวตาย ขนตำรวจทหารกว่า 5 พันนาย ตัดสัญญาณมือถือเพราะกลัวถูกลอบสังหาร จึงอยากพา พลเอก ประยุทธ์ ไปดูหนังกลางแปลงด้วยกัน 2 คน แต่คิดว่าท่านคงไม่กล้าไป เพราะขี้ขลาด มีตาขาวมากกว่าตาดำ
ในด้านความมั่นคง นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ก็บกพร่อง เนื่องจากกรณีเครื่องบินรบเมียนมารุกล้ำเข้าน่านฟ้าไทย เพื่อปฏิบัติการทางทหารโจมตีชนชาติกะเหรี่ยง ซึ่งถือเป็นชาติพันธุ์ที่มีประวัติศาสตร์ หรือเป็นเพราะ พลเอก ประยุทธ์ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อ พลเอก อาวุโส มิน ออง หล่าย นายกรัฐมนตรีเมียนมา
“ผมไม่ได้มาคนเดียว แต่มาพร้อมกับพระพุทธรูป ปางบิณฑบาต ในฐานะที่ผมเป็นผู้แทนราษฎรที่ประชาชนเลือกมาและไม่ได้ซื้อเสียงแต่บาทเดียว ขอพูดแทนคนไทยกว่า 66 ล้านคน ว่าขอบิณฑบาต พล.อ.ประยุทธ์ ให้ปลดปล่อยประเทศไทยและประชาชน ด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเสียทีเถิด เพราะว่า 8 ปี 2 เดือน อยู่ไปก็ไม่เกิดประโยชน์” นายมงคลกิตติ์ กล่าว