‘ไปป์’ พร้อมคนใกล้ชิด ทำบุญวันเกิดครบรอบ 56 ปีแทน ‘ยิ่งลักษณ์’
‘ไปป์’ พร้อมคนใกล้ชิด ทำบุญวันเกิดครบรอบ 56 ปีแทน ‘ยิ่งลักษณ์’ เจ้าคุณประสารอวยพรขอให้ได้เป็นอิสระ ได้กลับประเทศ – เจ้าตัวโพสต์เฟซบุ๊ก บอกเล่าเรื่องราววันเกิด 6 ปีที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย
เวลา 10.00 น. วันนี้ (21 มิ.ย. 66) ที่วัดราชาธิวาสวรวิหาร นายศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ญาติๆ พร้อมคนสนิท และบุคคลที่เคยร่วมงาน อาทิ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายวรวัจน์ เอิ้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรี และส.ส.จังหวัดแพร่ เขต 2 พรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ และนายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักษาชาติ และทีมงานของอดีตนายกฯ เป็นตัวแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร่วมทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 56 ปี น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยนายศุภเสกข์ นำคณะร่วมกันปล่อยปลามงคล 9 ชนิด จำนวน 59 ตัว ก่อนจะเข้าพระอุโบสถเพื่อถวายสังฆทาน ผ้าไตร และจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์จำนวน 59 รูป
ทั้งนี้ เจ้าอาวาสได้นำอวยพร น.ส.ยิ่งลักษณ์ผ่านทางนายศุภเสกข์เป็นการส่วนตัว ขณะที่พระราชวัชรสารบัณฑิต (เจ้าคุณประสาร) มจร. กล่าวอวยพร น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วยว่า ขอให้ประสบแต่ความสุข ความเจริญ ขอให้มีอิสระภาพ ขอให้บุญกุศลที่ได้ทำวันนี้เกื้อหนุนให้ได้รับแต่สิ่งที่เป็นมงคล ให้ได้รับสิ่งที่ประเสริฐ ให้ได้กลับประเทศไทยด้วยความสวัสดิภาพ และกลับมาพัฒนาบ้านเมือง ประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า
จากนั้นเวลา 11.45 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้โพสภาพ และข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเป็นการบอกเล่าเรื่องราววันเกิด 6 ปีที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ภายใต้ธีม “6 เรื่องราว 6 ภาพแห่งความคิดถึงและแรงบันดาลใจ” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยอมเผยความในใจในลักษณะนี้ เพื่อใช้ประสบการณ์ชีวิตของตัวเองแปรเปลี่ยนเป็นพลัง และกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังท้อแท้ ความว่า
“6 ความคิดถึงและแรงบันดาลใจ”
วันคล้ายวันเกิดปีนี้ของดิฉันเป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 6 แล้วที่ดิฉันต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนอันเป็นที่รักมาใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ดิฉันเชื่อว่า 6 ปีของหลายคนคงมีเรื่องราวผ่านเข้ามาในชีวิตกันมากมาย เช่นเดียวกับตัวดิฉันจึงขอใช้โอกาสนี้นำ 6 เรื่องราว 6 ภาพแห่งความคิดถึงที่ไม่เคยบอกเล่าที่ไหนมาก่อนมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้ฟังกันค่ะ ดิฉันหวังว่าจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ใครต่อใครที่อาจจะท้อแท้หรือสิ้นหวังอยู่ ให้มีแรงลุกขึ้นและก้าวเดินต่อไปนะคะ
ซึ่งสิ่งที่เล่าไปทั้งหมดเป็นทั้งความคิดถึงและแรงบันดาลใจให้กับดิฉันตลอด 6 ปีที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ซึ่งดิฉันไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อน ทำให้ดิฉันได้ตกผลึกทางความคิดและความรู้สึกว่า “ชีวิตคนเรามีโอกาส และมีทางเดินเพื่อเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ”
เช่นเดียวกับชีวิตของพี่น้องประชาชนค่ะ เพราะสิ่งที่ดิฉันเผชิญคงเทียบไม่ได้กับความทุกข์ยากของพี่น้องคนไทยที่ตลอด 9 ปีที่ผ่านมาต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้รัฐบาลเผด็จการทหาร วันนี้ดิฉันดีใจมากค่ะที่พี่น้องคนไทยได้ใช้อำนาจจากปลายปากกานำพาประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับสู่ประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรา
เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดปีนี้ ดิฉันขอเปลี่ยนความคิดถึงเป็นกำลังใจส่งไปให้พี่น้องคนไทยทุกคนนะคะ”