POLITICS

‘จตุพร-นิติธร’ จี้ นายกฯ ปรับโครงสร้างราคาพลังงาน

‘จตุพร-นิติธร’ ยื่นหนังสือจี้ นายกฯ ปรับโครงสร้างราคาพลังงาน แก้ปัญหาราคาน้ำมัน-ก๊าซหุงต้ม ซัดฝ่ายค้าน อภิปรายไม่ไว้วางใจไร้ชื่อ รมว.พลังงาน ชี้ ผลประโยชน์ของชาติต้องมาก่อนการเมือง

วันนี้ (20 มิ.ย. 65) เวลา 13:30 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. พร้อมด้วย นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย เดินทางมายื่นหนังสือต่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของทำเนียบรัฐบาล และอ่านแถลงการณ์เพื่อเรียกร้องให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แก้ไขปรับปรุงโครงสร้างราคาน้ำมัน และแก๊สธรรมชาติ หลังราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ในช่วงที่สภาวะทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน

โดยตัวแทนกลุ่มรวมประชาชน ได้อ่านแถลงการณ์ด้านหน้าศูนย์รีบเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลดังนี้

กลุ่มรวมประชาชนได้รวบรวมข้อมูลศึกษาติดตามการแถลงนโยบาย และการบริการราชการ แผ่นดินของท่านมาโดยตลอด นับแต่วันที่ท่านทำการรัฐประหารประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เวลาประมาณ 16.30 นาฬิกา โดยมีท่านเป็นหัวหน้าคณะ ใช้ชื่อว่า “คณะรักษาความสงบ แห่งชาติ” ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอดต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลาร่วม 6 ปี กลุ่มรวมประชาชนเห็นว่า ขณะนี้ได้ปรากฏสถานการณ์อันน่าห่วงใยถึงสภาวะทางเศรษฐกิจอันมี ผลเป็นภัยต่อประเทศ และกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน เกิดความทุกข์ยากทั่วทั้งแผ่นดิน เป็นที่ ประจักษ์ชัดมิอาจปฏิเสธได้ สาเหตุมาจาก

1.มิได้มีการปฏิรูป เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนอย่างจริงจัง ตามที่ท่านได้เคยพูดไว้

2.การบริหารราชการแผ่นดินของท่านเมื่อเทียบกับดัชนีวัดคะแนนปลอดคอร์รัปชั่นในประเทศ ไทยประจำปี พ.ศ. 2564 พบว่า อยู่ในอันดับที่ 110 จาก 140 ประเทศ นับว่าเป็นคะแนน ต่ำสุดในรอบ 10 ปี จากการวัดค่าดัชนีโดยองค์กร Transparency International แสดงว่า การบริหารบ้านเมืองของท่านยังคงมีสภาพการทุจริต ฉ้อฉล หรือบิดเบือนอำนาจ ขาดความตระหนัก นึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติประชาชน

จากสาเหตุหลักดังกล่าวข้างต้น มีผลต่อสภาวะทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ดังนี้

  1. มีหนี้สาธารณะประมาณ 10 ล้าน ล้านบาท
  2. มีหนี้สินครัวเรือนประมาณ 14 ล้าน ล้านบาท
  3. กิดสภาวะเงินเฟ้อ
  4. ประเทศมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ จัดทำงบประมาณขาดดุลมาอย่างต่อเนื่อง
  5. ประชาชนขาดรายได้และมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น
  6. ประชาชนตกงานและวาดเงินออม
  7. กิดความเหลื่อมล้ำ และช่องว่างระหว่างคนรวย-คนจน มากรีน
  8. การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเน้นการกู้ยืมเงินมาแจกประชาชน โดยไม่ก่อรายได้ ไม่ส่งเสริมการ สร้างงาน
  9. ค่าครองชีพประชาชนสูงขึ้น ทั้งค่าอาหาร สินค้าราคาแพง รวมทั้งค่าอุปโภค บริโภค

นี่คือสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ประชาชนรับรู้ รู้สึกได้ด้วยตนเอง แบกรับภาระมาโดยตลอด จากสภาพ ปัญหาดังกล่าวที่ยังมิอาจแก้ไขได้ ขณะนี้ประชาชนถูกซ้ำเติมด้วยราคาไฟฟ้า น้ำมัน และก๊าซหุงต้ม ที่ราคา แพงสูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะมีราคาสูงขึ้นอีกเป็นระยะเวลายาวนาน การกล่าวอ้างสถานการณ์โรคระบาดโควิด และสถานการณ์ประเทศรัสเซีย ประเทศยูเครน ว่า เป็นสาเหตุให้ราคาพลังงานสูงขึ้นนั้น เป็นการกล่าวอ้างโดยอาศัยสถานการณ์ เพราะต้นเหตุที่แท้จริงที่ทำ ให้ราคาพลังงานสูงขึ้นมากมาจากสาเหตุหลัก ดังนี้

  1. ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย คำถามคือ ทำไมปิโตรเลียม ไทยเป็นของรัฐ นี่คือส่วนสำคัญที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถเป็นเจ้าของทรัพยากรปิโตรเลียม ไทยได้อย่างแท้จริง ส่งผลให้การดำเนินการตรวจสอบ การมีส่วนร่วมตัดสินใจในวิธีการบริหาร กิจการปิโตรเลียม ตกอยู่ในอำนาจรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว
  2. โครงสร้างราคาน้ำมันบิดเบือนที่ไม่ถือตามราคาต้นทุนที่แท้จริง การกระทำดังกล่าวสามารถ ทําได้ ไม่ถือเป็นการทุจริต ฉ้อฉล คอร์รัปชั่น ค้าขายผูกขาด ไม่เป็นธรรม ได้กำไรเกินสมควร เพราะมีมติคณะรัฐมนตรีรองรับ มีกฎหมาย และการแก้ไขกฎหมายรองรับ
  3. การอ้างการค้าเสรี โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศ และประชาชนเป็นหลัก เป็นการกล่าว อ้างที่ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง เพราะหลักการค้าเสรีอยู่ภายใต้หลักการค้าอย่างเป็นธรรม อันเป็น หลักสากลที่ทั่วโลกยอมรับ หมายความว่า การค้าเสรีเปิดโอกาสให้เกิดการแข่งขันอย่างเท่า เทียม ไม่มีการผูกขาด หรือกีดกันทางการค้า ยกเว้นมาตรการภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าอากร พิธี การทางศุลกากร เป็นต้น แต่การค้าเสรีไม่มีความหมายรวมถึง การสร้างก้าไรเกินสมควร การ สร้างภาระกับประเทศและประชาชน ทั้งยังไม่มีข้อจำกัดในการรักษาผลประโยชน์ขอประเทศ และประชาชน

กลุ่มรวมประชาชนจึงขอให้รัฐบาลของท่านดำเนินการโดยเร่งด่วนดังนี้

1) ยกเลิกราคาน้ำมันทุกประเภทที่อ้างอิงราคาจากประเทศสิงคโปร์ (ราคาสมมติ)

2) ยกเลิกราคาก๊าซหุงต้มที่อ้างอิงราคาจากประเทศซาอุดิอารเบีย (ราคาสมมติ)

3) กําหนดเพดานราคาค่าการกลั่น

4) กำาหนดเพดานราคาค่าการตลาด ทั้งต้องควบคุมค่าการตลาดให้อยู่ในระดับตามที่คณะ กรรมการบริหารนโยบายพลังงานได้เคยประกาศไว้แล้วอย่างเคร่งครัด คือ กลุ่มน้ำมันเบนซิน ต้องไม่เกิน 1.55 บาทต่อลิตร และกลุ่มน้ำมันดีเซลต้องไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร

5) การกำหนดให้ราคา LPG ลอยตัว เป็นสิ่งที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น ผู้ดำเนินการ ส่งผลให้มีราคาแพงขึ้นเป็นอย่างมาก ก่อให้เกิดกำไรเกินควรแก่ประกอบการ แต่ เป็นภาระกับประชาชนอย่างรุนแรง ต้องยกเลิกกลับไปใช้ระบบเดิม

6) การจัดสรรก๊าซธรรมชาติ ต้องแก้ไขให้ประชาชนได้รับสิทธิการใช้อย่างเพียงพอก่อนเป็นอันดับ แรก จากนั้นจึงค่อยให้ภาคอุตสาหกรรม

7) เก็บภาษีลาภลอย (Windfall Tax) ของโรงกลั่น

8) จัดหาพลังงานน้ำมัน ก๊าซจากมิตรประเทศ อาทิเช่น ประเทศรัสเซีย ประเทศอิหร่าน เพื่อแก้ไข วิกฤตพลังงาน น้ำมัน ก๊าซ อย่างเร่งด่วน

9) ลดภาษีสรรพสามิตลงอีก

ตามที่ขอให้ท่านดำเนินการทันที เพราะถือว่าสถานการณ์ขณะนี้เป็นสถานการณ์วิกฤตด้านน้ำมัน เชื้อเพลิง อันหมายถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมีการปรับราคาขึ้นอย่างรวดเร็ว อันมีผลกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชน ซึ่งสามารถกระทำได้ทุกข้อ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 3 (1) แห่งพระราช กำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 เพื่อประกาศควบคุมราคาน้ำมัน สำเร็จรูป ณ โรงกลั่น และราคาขายปลีกพร้อมทั้งห้ามนำน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตได้ส่งออกไปนอก ราชอาณาจักร นอกจากนี้ สถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้น ยังอยู่ในช่วงระยะเวลาที่ท่านประกาศสถานการณ์ ฉุกเฉิน ดังนั้น การแก้ไขสถานการณ์วิกฤตด้านพลังงาน ท่านสามารถใช้อำนาจ หน้าที่ ตามประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินที่ยังมีผลใช้บังคับอยู่ เพื่อแก้ไขวิกฤตพลังงานให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติประชาชน ได้โดยทันที

นิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย

นายนิติธร กล่าวว่า สถานการณ์วันนี้ ไม่ใช่สถานการณ์ต่อเนื่องตามปกติเหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้นมา สถานการณ์นี้เกิดขึ้นโดยมีส่วนสำคัญจากการกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือการแก้กฎหมายให้ก๊าซธรรมชาติลอยตัว ทำให้ราคาก๊าซพุ่งสูงขึ้น, การไม่กำกับดูแลกิจการด้านพลังงาน ปล่อยให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น รวมทั้งการตั้งราคาสมมุติ หรือราคาอ้างอิง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้เลย ยกเว้นการออกกฎหมายรองรับให้กระทำการ แต่การออกกฎหมายดังกล่าวนั้น เป็นการออกกฎหมายที่ไม่โปร่งใส ทำให้เกิดการค้ากำไรเกินควร เท่ากับเป็นการออกกฎหมายให้กับผู้ประกอบการที่กระทำผิดกฎหมายนั้นการเป็นถูกกฎหมาย

ซึ่งชัดเจนแล้วว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยเหตุ และผลของกฎหมาย คือการไม่เอาต้นทุนที่แท้จริงมาใช้ประกอบการธุรกิจ ซึ่งไม่มีกิจการไหนทำแบบนี้ได้ โดยการกระทำลักษณะนี้ ให้กับธุรกิจรายดังกล่าว เป็นการเลือกปฎิบัติ และการออกกฎหมายดังกล่าวถือว่าเป็นการออกกฎหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ รวมถึงส่งผลให้ประเทศชาติ และประชาชนนั้นเสียผลประโยชน์

ตนขอท้า พลเอกประยุทธ์ เปิดเวทีมาดีเบตกับตน ซึ่งพลเอกประยุทธ์ เป็นทหาร ตนเป็นทนายความ มาดูกันว่า สิ่งที่นายก ฯ คิด กับตนคิดนั้นอะไรจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า หรือการบริหารด้านพลังงานระหว่างตน กับพลเอกประยุทธ์ ใครจะดีกว่ากัน นายนิติพรกล่าว

จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.

ด้านนายจตุพรกล่าวว่า เป็นที่น่าเสียดายกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านในครั้งนี้ ไม่มีการอภิปราย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มทุนพลังงาน มีอำนาจเหนือรัฐ มีอำนาจเหนือฝ่ายค้าน มีอำนาจเหนือทางการเมืองทุกอย่าง ทั้งที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนแสนสาหัสจากราคาพลังงาน และการอ้างเรื่องภาวะสงครามใช้เป็นสาเหตุในการปล้นประชาชน แต่มีกลุ่มทุนบางกลุ่มได้ประโยชน์ทุกครั้ง และในกรณีที่เกิดขึ้นระหว่างยูเครนกับรัสเซียมีความหายนะมากมาย แต่ขณะเดียวกันก็ได้สร้างความร่ำรวยให้เกิดขึ้นกับคนบางกลุ่มในประเทศไทยโดยเฉพาะด้านพลังงาน เพราะฉะนั้นตนจึงอยากจะฝากไว้ว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ ต้องมาก่อนการเมือง

ตนจึงขอนัดหมายกันครั้งแรก ในวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายนนี้ ขอให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ที่เดือดร้อนและรับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น มาช่วยกันระดมความคิดเห็น ที่ PEACE TV และในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ขอนัดหมายที่ลานคนเมือง โดยจะขออนุญาต นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เปิดเวทีประชาชน ตั้งเวทีประชาชน ชำแหละพลังงานและความเดือดร้อนของประชาชน เวลา 16.00 น. นายจตุพรกล่าว

เรื่อง: กิตติธัช วิทยาเดชขจร
ภาพ: พุฒิพงศ์ ธัญญพันธุ์

Related Posts

Send this to a friend