‘ชัชชาติ’ เล็งคุมเข้มกฎหมาย ดึงประชาชนมีส่วนร่วม ลดต้นตอฝุ่น pm2.5
‘ชัชชาติ’ เผย แก้ปัญหา PM2.5 เป็นคำสั่งประชาชน เล็งคุมเข้มกฎหมาย ดึงประชาชนมีส่วนร่วม ลดต้นตอฝุ่น
วันนี้ (21 มิ.ย. 65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังหารือกับมูลนิธิส่งเสริมออกแบบอนาคตประเทศไทย โครงการสานพลังเคาท์ดาวน์ PM2.5 เพิ่มสุขภาวะคนเมือง (หลวง) ว่า มูลนิธิส่งเสริมออกแบบอนาคตประเทศไทย ได้รับการส่งเสริมจาก สสส.จัดเวิร์คช็อปเรื่อง PM2.5 นโยบาย กทม.มี 4 ด้าน 1.กำจัดต้นตอ PM2.5 ผ่านโครงการนักสืบฝุ่น ร่วมกับ มหาวิทยาลัย เพื่อวิเคราะห์ต้นตอฝุ่นในกรุงเทพฯ ทำให้มีข้อมูลในระยะยาว และทำงานเชิงรุก เช่น กำจัดต้นตอจากรถยนต์ที่ใช้ระบบเชื้อเพลิงดีเซล เปลี่ยนรถยนต์ระบบสันดาปเป็นรถระบบไฟฟ้า และดูต้นตอโรงงานปล่อยควันพิษ
2.จัด Low Emission Zone สนับสนุนให้คนใช้รถสาธารณะ และปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น 3.แจกอุปกรณ์ป้องกันช่วยบรรเทาฝุ่น เช่น หน้ากากอนามัยและเครื่องกรองอากาศให้กับกลุ่มเปราะบาง สร้างพื้นที่ปลอดภัยในโรงเรียน โรงพยาบาล และศูนย์บริการสาธารณสุข 4.คาดการณ์และแจ้งเหตุ จากกลุ่มเครือข่าย อาจจะร่วมกับหน่วยงานเอกชน หรือมหาวิทยาลัย ติดตั้งเครื่องวัดปริมาณฝุ่น ขั้นต่ำ 1,000 จุดทั่วกรุงเทพฯ
ปัญหา PM 2.5 จะแก้ได้ต้องมี 2 องค์ประกอบ 1.Hard Power กฏหมายต้องเข้มข้น 2.Soft Power เปิดข้อมูลปริมาณฝุ่น PM2.5 และใช้พลังประชาชน มีส่วนร่วมในการบังคับให้ลดการปล่อยฝุ่น ซึ่งมีผลไม่น้อยไปกว่าการบังคับใช้กฏหมาย
นายชัชชาติ ระบุว่า ที่ผ่านมายังขาดข้อมูลเรื่อง PM2.5 ที่แท้จริง และไม่ได้ศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพราะข้อมูลวิจัยล่าสุดอยู่ที่ปี 2554 และต้องร่วมมือกับหลายหน่วยงาน อาทิ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม และ กทม. กฏหมาย ทั้งยังต้องวางแผนแก้ไขปัญหาระยะยาว แม้ฝุ่นจะมาเป็นฤดูกาล แต่มีผลต่อสุขภาพประชาชนในระยะยาวหรือตลอดชีวิต
“ผมว่ามันเป็นคำสั่งจากประชาชน จะเห็นว่าเรามีนโยบายที่ชัดเจนตอนหาเสียง ประชาชนเลือกมาก็มีนโยบายที่จะทำต่อ เป็นนโยบายระยะยาวและให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการช่วยแก้ปัญหา”
สำหรับเป้าหมายในการลด PM2.5 ในกรุงเทพฯ คงต้องทำให้ลดลงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ไม่กล้าสัญญาว่าปริมาณจะลดลงเท่าไร แต่จะแก้ปัญหาให้ดีขึ้น ส่วนการปรับเกณฑ์วัดค่า PM2.5 คงไม่สำคัญเท่าตัวเลขที่เราวัดได้จริง ๆ เพราะมาตรฐานเป็นแค่ความสบายใจ