นายกฯ บินนครสวรรค์ ชมตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติด 7 คดีใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 20 ล้านเม็ด
นายกฯ บินนครสวรรค์ ชมตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติด 7 คดีใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 20 ล้านเม็ด เร่งรัดเครื่องเอ็กซเรย์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ลั่น ปราบยาเสพติดเข้มข้นครบวงจร ขอให้มั่นใจไม่มีวนของกลาง พร้อมพิจารณางบสร้างขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
วันนี้ (21 มี.ค. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะออกเดินทางจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ฯ เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปยังสนามบินนครสวรรค์ ตำบลนครสวรรค์ ออก อำเภอเมืองนครสวรรค์
นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางต่อไปที่ด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี ตำบลย่านมัทรี อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อติดตามผลการปฏิบัติการปราบปรามและจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีพลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รายงานผลการจับกุมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และนำชมของกลางที่สามารถจับกุมได้ 7 คดีใหญ่ รวมของกลางทั้งหมดแบ่งเป็น ยาบ้า 20,080,000 เม็ด ไอซ์ 700 กิโลกรัม คีตามีน 199 กิโลกรัม ผู้ต้องหา 20 คนรถยนต์ 14 คัน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเทตัวอย่างยาบ้า ที่จับกุมมาได้ให้นายกรัฐมนตรีดู ซึ่งมีทั้งสีส้ม สีเขียว
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้รับฟังแถลงผลการทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พร้อมดูวิดิทัศน์การจับกุมของแต่ละคดี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สอบถามว่า การจับกุมดังกล่างสามารถจับต้นตอได้หรือไม่เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งว่า ได้มีการออกหมายจับไปแล้ว
นายกรัฐมนตรี ได้ดูรถของกลางที่มีการดัดแปลงเพื่อซุกซ่อนลำเลียงยาเสพติดทั้งรถเก๋ง รถบรรทุก รถขนน้ำมัน ก่อนที่จะดูการเอ็กซเรย์รถ ลดเวลาในการค้นพบยาเสพติด ไม่เสียเวลา ในการเข้าจับกุม ลดการเสียหายของทรัพย์สินที่จับกุม จากนั้นนายกได้ดูวิธีการสาธิตการเอกซเรย์ รถ ต้องสงสัย และดูสถานี ควบคุมคอนโทรล การตรวจรถ ต้องสงสัย ซุกซ่อน ยาเสพติด พร้อมกับสอบถามว่า ลักษณะรูปแบบของแพคเกจสิ่งเสพติด มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือไม่ขณะที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าแม้จะมีการเปลี่ยนรูปแบบแต่ด้วยความเชี่ยวชาญและชำนาญของเจ้าหน้าที่ สามารถยืนยันว่า เป็นสิ่งเสพติด พร้อมสอบถามถึงความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเป็นห่วงระหว่างการจับกุมผู้ต้องสงสัยหรือคนร้ายอาจจะพกพาอาวุธมาตรงนี้ได้มีการตรวจที่ตัวของ ผู้ต้องหาด้วยใช่หรือไม่
จากนั้น นายกรัฐมนตรี แถลงถึงผลปฏิบัติการจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ ว่า วันนี้มาที่นครสวรรค์ดูเรื่องการจับยาเสพติดซึ่งมีทั้งยาบ้ายาไอซ์และยาเคอย่างที่เห็นยาบ้าจับได้ทั้งหมด 20 ล้านเม็ดตัวเล็กกลม ๆทั้งหมดมี 7 คดียาไอซ์ 700 กิโลกรัม ถือว่าเป็นรถที่ใหญ่มาก และเริ่มจับอย่างจริงจังตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วจนถึงวันที่ 1 มีนาคมปีนี้ถือเป็นส่วนที่จับได้ซึ่งจริงๆแล้ว ที่ยังไม่เรียบร้อย ทางตำรวจได้มีการจับเพิ่มได้อีกด้วยและจะมีรายงานเคสต่อเคสเป็นระยะวันนี้ต้องชื่นชมขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน หากไม่ได้รับความร่วมมืออย่างบูรณาการคงจะจับเคสใหญ่ๆแบบนี้ไม่ได้วันนี้จับได้ทั้งรายเล็ก รายย่อยคนส่ง สาวไปถึงตัวการได้ อันไหนที่อยู่ต่างประเทศเราก็ขอความร่วมมือระหว่างประเทศด้วย เป็นสิ่งที่ทำจนจบครบและตอนนี้เห็นได้ว่าจากการรายงาน รถที่ส่งยาเสพติดค่าจ้างเริ่มแพงขึ้นแปลว่าอะไรแปลว่าเจ้าหน้าที่ของเราทำงานได้อย่างเข้มข้นมากขึ้นการขนส่งยาเสพติดเป็นไปได้ยากขึ้น ฉะนั้นค่าจ้างสูงขึ้นและก่อนที่จะมา ขณะที่ราคายาบ้าเมื่อก่อนถูกมากราคาแพงขึ้น หาได้ยากขึ้น ต้องขอบคุณและชื่นชมจากใจจริง นโยบายที่รัฐบาลออกมากวาดล้างยาเสพติดคงไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อรัฐบาลให้ความมั่นใจ ว่าจะปราบปรามอย่างจริงจัง เจ้าหน้าที่ก็มีกำลังใจ ซึ่งเราคำนึงถึง ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้วย และต้องเห็นใจคนทำงานหน้างานด้วย จึงต้องมีมาตรการดูแล เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานแล้วเข้าเนื้อตัวเอง เมื่อร่วมมือกันแบบนี้จึงเห็นผลในวันนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนที่มีเบาะแส สามารถที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ประเทศของเราก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงขึ้น จากนี้จะขอความร่วมมือจากกระทรวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบำบัด ให้ผู้เสพกลับคืนสู่สังคม ตนพูดเสมอว่าคนติดยา อย่าไปมองว่าเขาเป็นคนไม่ดีเพราะบางครั้งอาจผิดพลาดเพราะมีปัญหาในชีวิต ดังนั้น้ราต้องช่วยกันในการบำบัดให้กลับเข้าสู่สังคมอันนี้คือสิ่งสำคัญ รัฐบาลจะทำในเรื่องการฝึกอาชีพ ซึ่งเริ่มแล้ว โดยศูนย์บำบัด เป้าหมายอยากให้ประชาชนมีอาชีพ ต่อไปจะได้ไม่หันกลับเข้าไปยาเสพติดอีก และไม่ส่งผลให้คน เสพยาเพิ่มขึ้น รัฐบาลจะแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ครบวงจรและเข้มข้นขึ้น ในทุกภาคส่วน
เมื่อถามถึงเครื่องเอ็กซเรย์ยาเสพติดที่มีไม่เพียงพอ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องจริงที่มีไม่เพียงพอ โดยมีงบประมาณตั้งแต่รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่จะต้องให้มีเครื่องเอกซเรย์ยาเสพติดมากขึ้นเพื่อจะได้ครบทั้งหมดทั่วประเทศในเดือนกันยายน ปีนี้ แต่ว่าที่มีการพูดคุยในกระบวนการ ตนอยากขอให้เร่งว่าถ้าเครื่องไหนเสร็จก่อนก็ขอให้เริ่มนำมาใช้งานได้เลย จากที่ตนได้เข้าไปดูการตรวจเครื่องมาพบว่าไม่พลาด พอเห็นการเอกซเรย์สามารถจับได้เลย โดยการมีผู้วิเคราะห์ และผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก
ส่วนเรื่องการขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องยึดทรัพย์เราเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนของกลางที่ยึดมามีการกำหนดวันการทำลาย โดยยืนยัน มีการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มข้น ซึ่งเรื่องยาเสพติดนั้นคนที่คนเข้ามาต้องตระหนักรู้ว่าทำลายประเทศชาติอย่างมาก ฉะนั้น การยึดทรัพย์เป็นเรื่องที่สามารถทำได้เลย
เมื่อถามต่อว่าประชาชนจะสามารถมั่นใจได้อย่างไรว่ายาเสพติดที่จับกุมารได้จะไม่มีการนำมาวนในกระบวนการอีก นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่มีค่ะ การวนต่อไม่มี ตนเองได้คุย และได้เห็นเองแล้ว ซึ่งตั้งแต่มีการสั่งการไปทางเจ้าหน้าที่ทุกคนก็กลัวว่าของกลางจะหาย โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้า มีตัวเลขและจำนวนที่ชัดเจน เพื่อรอการทำลายโดยมีหลายทีมรับผิดชอบฉะนั้นอยากให้ประชาชนไว้ใจได้ และสบายใจเรื่องนี้ได้ โดยยาเสพติดที่ถูกจับแล้วณตอนนี้ และตั้งแต่ที่ตนสั่งการไปไม่มีการวนกลับไปในระบบอย่างแน่นอน
เมื่อถามต่อว่า 7 คดีที่แถลงข่าววันนี้ (21 มี.ค. 68) จะสามารถสาวถึงตัวการใหญ่ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สาวได้แน่ ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันมา และบางกรณีที่อยู่ในต่างประเทศก็มีการออกหมายจับไปแล้ว ซึ่งมีทั้งระดับผู้สั่งการ รายใหญ่ รายเล็ก และเจ้าของการผลิต พร้อมยืนยันว่า ใน 7 คดีนี้ยังไม่มีคนมีสี เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งตนก็ได้คุยกับทางเจ้าหน้าที่แล้วถ้าหากมีคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน มากกว่าอยู่แล้วแต่ก็มีเจ้าหน้าที่ ที่ทำดีมากกว่าอยู่แล้ว เขาก็อยากพิสูจน์ตัวเองว่าทำตรงนี้ประชาชนไว้ใจได้ ขอให้ประชาชนเข้าใจตรงนี้
ส่วนมิติการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อันนี้เป็นสิ่งที่คิดตลอดและหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าเจ้าหน้าที่จะได้อะไรบ้างจากการจับกุม เพราะเจ้าหน้าที่ทำงานเสี่ยงชีวิต และไม่รู้ว่าคนที่ขนยาเสพติดมีอาวุธหรือไม่ เจ้าหน้าที่ควรได้รับค่าตอบแทนเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ และทุกภาคส่วน
ส่วนคนที่ถูกออกหมายจับหนีไปต่างประเทศ ในระดับรัฐบาลจะทำอย่างไรได้บ้าง นายกต่อว่า รัฐบาลพร้อมช่วยคุยหากได้รับการประสานมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกประเทศที่นายกรัฐมนตรีไปเจอสามารถขอความช่วยเหลือได้อยู่แล้ว ทั้งเรื่องน้ำท่วม และcall center เรื่องนี้ก็เช่นกัน การส่งคนร้ายหรือช่วยกันจับ เป็นไปได้แน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่คุยกันในทุกระดับ