POLITICS

‘พริษฐ์’ ไม่ขอให้ความเห็น ดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่

ชี้ ให้ความสำคัญเรื่องเนื้อหาคำวิจารณ์มากกว่า ยินดีรับฟังทุกเสียง เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข

วันนี้ (20 พ.ย. 66) ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีผู้อ้างตนว่าเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ประมาณ 10 คน จะเดินทางมายื่นหนังสือลาออก เนื่องจากไม่พอใจในพฤติกรรมของ สส.ก้าวไกล บางส่วน ว่า ในภาพรวมพรรคก้าวไกล ตั้งเป้าหมายไว้อยู่แล้วว่า เราต้องการเป็นสถาบันทางการเมืองที่เป็นพรรคการเมืองของประชาชน และสมาชิกอย่างแท้จริง หากมีสมาชิกพรรคที่อาจจะมีความกังวล หรือมีข้อท้วงติงมา เราก็ยินดีรับฟังทุกเสียง

ปัจจุบันพรรคก้าวไกลมีฐานสมาชิกทั้งหมด 70,000 กว่าคนทั่วประเทศ และยังคงตั้งเป้าไว้อีก 2 ส่วนคือ การเพิ่มจำนวนสมาชิกให้มากขึ้น ซึ่งตั้งเป้าว่าในปีนี้ อยากจะทำให้มากขึ้นถึง 100,000 คน และมีทิศทางที่เป็นไปด้วยดี หวังว่าในปีต่อไปจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ รวมถึงการเพิ่มการมีส่วนร่วมของสมาชิกแต่ละคน ซึ่งในปัจจุบันก็มีการนำเสนอโครงสร้างใหม่ ในการคัดเลือกตัวแทนประจำอำเภอหากอำเภอนั้นๆ มีสมาชิกครบ 100 คน จะมีสิทธิ์ในการมาประชุมร่วมกัน เพื่อเลือกสมาชิกหนึ่งคนเป็นตัวแทนประจำแต่ละอำเภอ เป็นตัวแทนในการเข้ามามีส่วนร่วมกำหนดทิศทางของพรรค รวมถึงการประชุมสามัญประจำปีของพรรคด้วย

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ในการประชุมสามัญประจำปีของพรรคก้าวไกล ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน เม.ย. ถึง พ.ค. 2567 ผู้บริหารพรรคได้ให้คำมั่นสัญญาว่า เมื่อกรรมการบริหารพรรคชุดนี้จะหมดวาระลง ก็จะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยจะเปิดให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการหาตัวแทนประจำอำเภอที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงนี้ เข้ามามีส่วนร่วม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคก้าวไกล จะมีแนวทางในการฟื้นฟูศรัทธาของพรรคอย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าการฟื้นฟูที่ดีที่สุดคือ การฟื้นฟูด้วยการกระทำ ดังนั้น หากมีข้อท้วงติงอะไรมาว่า ที่ผ่านมาเราอาจจะไม่สามารถป้องกัน หรือรับมือกับปัญหาใดๆ ได้ดีเท่าที่ควร เราสามารถประกาศมาตรการที่เราจะดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเดิมๆ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สิ่งที่น่าจะเป็นบทพิสูจน์ในการเรียกความเชื่อมั่นได้ดีที่สุดคือ การพิสูจน์ด้วยการกระทำ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราจะเดินหน้าต่อ

เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ มองว่าเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากมีการโพสต์และทวิตข้อความซ้ำๆ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าที่มาของความเห็นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อมีความเห็นเข้ามาว่า อาจจะมีประชาชนคนใดคนหนึ่งไม่พอใจ หรือต้องการวิพากษ์วิจารณ์ ท้วงติงพรรค ไม่ว่าเจตนาจะเป็นอย่างไร ตนยินดีรับฟัง

“ถ้าพรรคการเมืองจะเข้าไปบริหารประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนทุกคน ทุกเสียงก็มีความหมาย” นายพริษฐ์ กล่าว

ทั้งนี้ นายพริษฐ์ ระบุอีกว่า ขอไม่ให้ความเห็นว่าเจตนาเป็นอย่างไร สิ่งที่ตนให้ความสำคัญมากที่สุดคือ เนื้อหาสาระของคำวิพากษ์วิจารณ์นั้น และหากคำวิพากษ์วิจารณ์นั้น สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นจริง เราก็พร้อมที่จะรับฟัง และนำไปปรับปรุงแก้ไข

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat