อดีตเสื้อแดงขว้างของขึ้นเวที ‘ทักษิณ’ ปราศรัย บอก ไม่เป็นไรให้อภัยกัน – โดนลอบฆ่ามา 4 หนไม่ตาย
‘ทักษิณ’ ปราศรัยปิดท้ายมหาสารคาม พบ อดีตเสื้อแดงขว้างของขึ้นเวที บอก ไม่เป็นไร เราคนไทยด้วยกันให้อภัยกัน บอกโดนลอบฆ่ามา 4 หนไม่ตาย ห้อยหลวงพ่อหนังวัดโกยแน่บ
วันนี้ (20 ม.ค. 68) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงนายก อบจ. พรรคเพื่อไทย เดินทางมาปราศรัยปิดท้ายที่ ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม
นายทักษิณ กล่าวเริ่มการปราศรัย ว่าขอถามอะไร 2 ข้อ ตนเองแก่มากไหม ไม่ได้เจอกันนาน 20 ปี แก่หรือไม่ และขอถามคนที่ดมมือเมื่อกี้ว่ามือตนเองเหม็นไหม ที่นี่แปลกกว่าที่อื่นมีคนคว้ามือไปหอม แต่แปลกกว่านั้นคือเอวเจ็บไปหมด เพราะโดนหยิก โดนหยิกเยอะมาก คงคิดถึงกันมากไปหน่อยเนอะ 20 ปีที่ไม่ได้มา อ.พยัคฆภูมิพิสัย เชื่อว่าเราต่างคนต่างคิดถึงกัน เห็นต้อนรับอย่างนี้ตนเองก็มีความสุข บางคนเห็นตนเองร้องไห้ บางคนบีบมือไม่สะใจ ที่หนักกว่านั้นคือหยิกเอว ภูมิใจมีความสุขที่น้องไม่ลืมตนเอง พี่น้องคนอีสานตลอดเวลาไม่เคยลืมเลย ตนเองจากบ้านไปตั้งหลายปีไม่เคยลืม ทำให้รู้สึกว่าเป็นหน้าที่ที่ตนเองต้องมามาช่วยแก้ปัญหาให้ พี่น้องที่ลำบากอยู่ เรื่องยาบ้าเราพูดแบบภาษาลูกทุ่ง อย่าไปกลัวมันถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง ก็กระทืบมัน
นายทักษิณ กล่าวว่า มีเศรษฐีอเมริกันพูดเอาไว้ว่าถ้าเราเกิดมาจนไม่ใช่ความผิดของเรา แต่ถ้าเราตายจนเป็นความผิดของเรา แต่ถ้าเราไม่อยากตายแล้วยังต้องตายจนเป็นความผิดของรัฐบาล แสดงว่ารัฐบาลสร้างโอกาสให้ท่านหายจนได้ เพราะฉะนั้น รัฐบาลต้องมีหน้าที่สร้างโอกาสให้คนไทยหายจนให้ได้ วันนี้ตนเองเห็นใจคนไทย มีแต่หนี้ พอจะเสนอไอเดียต่าง ๆ ก็จะมีคนค้าน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาเรายินดีรับฟัง แต่บางทีมันค้านแบบหัวชนฝาก็ต้องอธิบายต้องตอบโต้ให้เขาเข้าใจบ้าง สำคัญคือว่าตนเองมีขาประจำ ตนเองรู้แล้วอยากด่าอะไร หายใจก็ผิด เข้าส้วมยังผิดเลย ไม่เป็นไร ตนเองไม่สนใจ คนที่ไม่เข้าใจ และค้านนั้น เราต้องอธิบายให้เขาฟัง เรายินดีอธิบายให้เขาฟังทุกเรื่อง เพราะวันนี้ประเทศอยู่กับเรื่องเก่า ๆ มันไม่ได้แล้วเพราะโลกมันทำมาหากินแบบใหม่ไปแล้ว ถ้าอยู่กับเรื่องเก่า ๆ เราก็เป็นทาสของโลก ทำงานแทบตายเหนื่อยแทบตายได้ตังค์มานิดเดียว ต่างประเทศทำขยับมานิดเดียวได้มาเป็น พันล้าน หมื่นล้าน
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า วันนี้รัฐบาลมีหนี้เยอะ ตั้งแต่ตนเองเป็นนายกฯ มาจนถึงวันนี้ก็ 20 กว่าปี ประเทศไทยมีงบประมาณสมดุลที่แปลว่ารายได้ กำไร รายจ่าย เท่ากันมาสองปีในสมัยตนเองเท่านั้น สมัยอื่นขาดดุลทุกปี ที่ผ่านมาขาดดุลจนหนี้ประเทศท่วม วันนี้รัฐบาลนายกฯ อิ๊งค์ เข้ามา จะทำอะไรต้องระวัง เพราะหนี้เต็มเพดาน ต้องหาวิธีคิดสร้างหนี้ให้น้อยที่สุด คือการได้เงินลงทุนจากต่างประเทศ มาสร้างงานให้ประชาชนได้มากที่สุด เพื่อเอาเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจให้ได้มากที่สุด
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า งานในข้างหน้าจะเยอะมาก ตนเองก็เลยอยากขอมือขอไม้ ขอกำลังใจ เพราะจะต้องทำงานร่วมกับท้องถิ่น ถ้าเป็นคนของพรรคเพื่อไทยเราสั่งได้ พูดได้จี้งานได้ จึงขอให้ช่วยเลือกผู้สมัครพรรคเพื่อไทยด้วย ทำไมต้องมาที่นี่เป็นพิเศษ เพราะพ่อของผู้สมัครตอนตนเองตั้งพรรคใหม่ ๆ มาลุยเขาเป็นคนขับรถพาลุย อยู่ ๆ เขาถูกยิงตาย ตนเองจึงมีความรู้สึกว่าผมจะต้องดูแลครอบครัวของกำนันตง โจ้ (ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร) ก็มาอยู่กับตนเอง ได้เป็นรัฐมนตรีไปแล้ว พี่น้องพยัคฆภูมิพิสัย ขี้เหนียวคะแนนไปนิดนึงเลยสอบตก คราวนี้ขออย่าขี้เหนียวนะ ขอให้ทักษิณก็แล้วกันนะ ตอนนี้พี่ชายคนโตของผู้สมัครฯ ก็เป็นที่ปรึกษานายกฯ เขาไปพลาดครั้งที่แล้วนิดหน่อย ส่วนน้องชายก็ขอเป็นนายกอบจ. จะได้เชื่อมโยงกับพี่น้อง ทำงานกับพี่น้องได้ เอาให้ตนเอง ขอเป็นมือไม้ของตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายทักษิณ กล่าวปราศัยอยู่นั้น ได้มีผู้หญิง คนหนึ่งสวมเสื้อสีแดงขว้างของขึ้นไปบนเวที จนการ์ด และมวลชนในบริเวณนั้นต้องเข้าระงับสถานการณ์ และพาตัวผู้หญิงคนดังกล่าวออกไปจากเวที ทำให้นายทักษิณ ระบุว่า ไม่เป็นไร คนไทยต้องให้อภัยกัน บางทีคนเราก็เก็บกด ไม่มีปัญหา
“ใจเย็น ๆ พี่น้อง คนเราบางทีมีปัญหาหนี้สินมั้ง บางทีมีปัญหาครอบครัวบ้าง บางทีมีปัญหาทางจิตบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา เราคนไทยด้วยกันให้อภัย พร้อมที่จะดูแลกันและกัน ไม่เป็นไร ” นายทักษิณ กล่าว และเมื่อพูดจบก็ได้ได้เสียงปรบมือจากมวลชน
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า พอตนเองอายุมาก ๆ เกิน 70 ปีไปแล้ว มีคาถาประจำใจ เดินไปไหน คาถาบอกว่า เย็นไว้โยม เย็นอย่างเดียว เย็นไว้โยม ใจเย็น ๆ ตนเองโดนลอบฆ่ามา 4 หน ก็เฉย ๆ ถึงเวลาก็ไปตามเวลา ถ้าไม่ถึงเวลาก็ไม่ไปตามเวลา ตนเองโดนลอบฆ่าตอนเป็นนายกฯ 4 หน คนถามว่าใส่พระอะไร ตนเองบอกหลวงพ่อหนังวัดโกยแนบ เราตั้งอยู่บนความไม่ประมาท
นายทักษิณ กล่าวว่า ตนเองอายุ 70 กว่ายังพอมีแฮงอยู่ พี่น้องว่าผมจะทำงานได้อีกกี่ปี เอาซัก 40 ปีได้หรือไม่ พูดแบบนี้ให้คนแช่งตน อกหักอกแตกตายพอดี เราต้องมองโลกในแง่ดีไปก่อน อยากเห็นคนไทยอายุยืน เดิม 30 บาทรักษาทุกโรค เหตุที่ทำเรื่องนี้เพราะตนเองเป็นคนบ้านนอก เคยเห็นคนรอคิวเข้าเตียงที่โรงพยาบาล ซึ่งเราต้องทำตามคำเสนอของหมอทันที วันนั้นเราอยากทำมากกว่านี้ แต่เราต้องย้อนกลับไปทำเรื่องป้องกัน ได้มากน้อยแค่ไหนเราต้องทำ วันนี้นายกฯ อิ๊งค์ ทำหน้าที่ในการขยายเป็น 30 บาทรักษาได้ทุกโรงพยาบาล และเราจะเข้าไปดูอีกว่าคุณภาพยาที่สั่งมา มีคุณภาพต่ำทำให้การรักษามีปัญหาหรือไม่ เราจะไปดูเรื่องนี้ด้วย จะใช้เทคโนโลยีทำให้คนที่อยู่ต่างจังหวัดได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
นอกจากนั้น รพ.สต. หรืออนามัย จะเป็นของท้องถิ่นแต่มีปัญหาหมอ วันก่อนคุยกับรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขว่าเป็นไปได้หรือไม่จะเอาหมอที่อยู่ในพื้นที่แถบนั้นมาทำหน้าที่ตรงนี้ ตนพยายามแก้ไขทุกอย่าง เพราะกลับมาถึงไทยมีความรู้สึกสำนึกในบ้านเมือง พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ไม่เคยลืม
“พี่น้องครับอยากให้ผมกลับมาพยัคฆภูมิอีกไหม กลับมาแล้วเนี่ยถ้าผู้สมัครได้เป็นนายกอบจ. ผมกลับมาเท่ห์เลย แต่ถ้าผู้สมัครไม่ได้เป็นนายกอบจ. ทำไงล่ะ ต้องคุมปี๊บไหม พี่น้องจะยอมให้ผมคุมปี๊บหรือ ไม่ยอมก็ขอให้เลือกเบอร์ผู้สมัครนะ ยังไงก็ถือว่าเราเป็นหุ้นส่วนพัฒนาประเทศด้วยกัน ให้ประเทศเจริญไปด้วยกัน เราเป็นหุ้นส่วนที่จะทำให้คนไทยอยู่ดีกินดีขึ้น เพราะฉะนั้นเราต้องเป็นทีมเดียวกัน ว่าไงว่าตามกัน ขอบคุณพี่น้องที่อุตส่าห์มาร้อนๆ ก็ยังอยู่กันเหนียวแน่น แล้วมาเจอกันใหม่ วันที่ผู้สมัครฯ เป็นนายก อบจ. พี่น้องที่อุตส่าห์มาร้อนๆก็ยังอยู่กับเหนียวแน่น เราขอโทษแทนคนเมื่อกี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่เป็นไร ช่างมัน เสียบรรยากาศไปนิดหน่อยแต่ขอโทษแทนแล้วกัน ” นายทักษิณ กล่าวทิ้งท้ายก่อนเดินทางกลับ
จากนั้น ผู้สื่อข่าวพยามถามนายทักษิณ หลังลงจากเวทีปราศรัย ว่า เมื่อสักครู่รู้สึกตกใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ แต่นายทักษิณ ไม่ได้ตอบคำถาม โดยได้หันไปทักทายกับประชาชน และขึ้นรถออกไปทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่การ์ดของนายทักษิณ เข้าระงับเหตุการณ์ผู้หญิงที่ขว้างสิ่งของขึ้นบนเวทีนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พยัคฆภูมิพิสัย มารับผู้หญิงคนดังกล่าว พร้อมบอกว่าจะพาส่งกลับบ้าน
ผู้สื่อข่าวตามไปถามหญิงคนก่อเหตุ ได้คำตอบว่า ชื่อว่า อ้วน มาจาก อ.วาปีปทุม ครอบครัวตนเองแตกสลาย พินาศชิบหาย ตั้งแต่ปี 2552 แล้ว เพราะเป็นเสื้อแดง คนที่ไม่ชอบเสื้อแดงจึงไม่มาอุดหนุนเลย เยียวยามาเลย ค้าขายไม่ดี คนเสื้อเหลืองก็ไม่มาซื้อ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ถามว่าเดินทางมาอย่างไรหญิงรายดังกล่าว จึงตอบว่า ไม่มีรถมา ไม่รถกลับ ผู้สื่อข่าวจึงถามตอบว่า รู้สึกอย่างไรถึงได้โยนของขึ้นไปบนเวที ป้าอ้วน กล่าวว่า โมโหมาก ตนเองไม่ได้ตั้งใจจะทำ แต่นั่งฟังแล้ว พอนึกถึงแล้วมันไม่ใช่ เพราะนาน ๆ เขามาเหยียบบ้านเราที ต้องจัด จากนั้น ตำรวจได้ปลอบใจว่าเหตุการณ์มาหลายปีแล้ว ป้าอ้วน จึงตอบกลับว่า “หลายปีแต่มันไม่ดีขึ้น มานี่ 200 ก็ไม่ได้ บอกเรามาเกิน” และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พาขึ้นรถตำรวจ และบอกว่าจะเอาไปส่งที่บ้าน