‘อนุทิน’ ถาม ยังไม่ชัดหรือ “ผมเป็นแคนดิเดตนายกฯ หนึ่งเดียวของภูมิใจไทย”

‘อนุทิน’ ถาม ยังไม่ชัดหรือ “ผมเป็นแคนดิเดตนายกฯ หนึ่งเดียวของภูมิใจไทย” ปลื้มซูเปอร์โพล ชูภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองที่สุดแห่งปี

วันนี้ (19 ธ.ค.65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า จะมี ส.ส.ไหลเข้ามาพรรคภูมิใจไทยอีก ว่า ยังบอกไม่ได้ว่ามาอีกกี่คน จะทราบก็ต่อเมื่อตนเองลงนามรับรองในใบสมัคร เป็นไปได้ที่จะมีมาอีก เวลา ส.ส.เข้ามาในพรรค ตนเองไม่ได้รับทราบทุกเรื่อง เพราะคนที่เห็นว่านโยบายของพรรคสอดคล้องกับการรับใช้ประชาชนในพื้นที่ก็อาจมาหารือและตัดสินใจ ว่ากันไปแต่ละราย

นายอนุทิน ยืนยันว่า จะส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 400 เขต เพราะเราต้องการให้ผู้สมัครได้คะแนนมากที่สุด และต้องการที่นั่งปาร์ตี้ลิสต์ด้วย ไม่เคยคิดว่าได้เปรียบหรือเสียเปรียบใคร เราก็ทำหน้าที่ของเรา โดยใช้ผลงานและนโยบายเป็นตัวขับเคลื่อน

ผู้สื่อข่าวถาม เป้าหมายของเก้าอี้ ส.ส.หลังเปิดตัว ส.ส.กว่า 30 ราย เข้าร่วมพรรค จะขยับเป้าที่นั่งเป็น 150 ที่หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า เราได้เท่าไหนเท่านั้น เพราะคนตัดสินไม่ใช่ตัวเรา เป็นเกมที่เราตัดสินตนเองไม่ได้ มันเป็นเกมที่เราต้องนำเสนอให้ประชาชนให้ความเชื่อมั่น มั่นใจ ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของเรา

ส่วนที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส.ส.ที่ย้ายซบพรรคภูมิใจไทย ส่วนใหญ่ได้เป็น ส.ส.เพราะคะแนนพรรค การย้ายมาคะแนนจึงไม่ได้ย้ายมาด้วยนั้น การที่ใครจะไปไหนมาไหนเป็นความสมัครใจของเจ้าตัว มีคนออกจากภูมิใจไทยเยอะแยะ ออกไปเพื่อไทยในสมัยก่อนไม่รู้เท่าไร เราได้แต่อวยพรให้เขาไปดี ตนเองคงไม่พูดบั่นทอนกำลังใจ ใครจะมาใครจะไปก็เคารพการตัดสินใจของบุคคลเหล่านั้น ขออย่างเดียวคือ ให้รับใช้พี่น้องประชาชน อยู่ที่ไหนก็เหมือนกันหมด

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยชัดเจนแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ชัดอีกหรือ ชัดมา 5 ปีแล้ว หนึ่งเดียวคนนี้ ไม่มี 3 คน

“ถ้าจะไม่ให้ผมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ภูมิใจไทยคงต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ผมนึกว่าชัดแล้วนะ โอ้ยทำไมยังไม่ชัดกัน คงไม่ใช่คอการเมืองแล้ว”

ขณะที่ผลสำรวจของสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ที่ระบุว่า ภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองที่สุดแห่งปีนั้น การทำการเมืองต้องยึดถือข้อมูลจากทุกด้าน ผลโพลเป็นกำลังใจ เป็นแนวทางชี้ให้เห็นว่า ประชาชนให้ความเชื่อถือในด้านนี้มากเป็นพิเศษ ด้านใดที่ประชาชนยังไม่ให้ความเชื่อถือก็ไปแก้ไข เราคงไม่ยึดถือผลโพลโดยไม่ต้องทำอะไร แต่เราจะยังลงพื้นที่ต่อเนื่อง วางนโยบายการทำงานของพรรคต่อไป

ส่วนอีกผลสำรวจที่คนส่วนใหญ่ ระบุว่า อยากให้ยุบสภาเพราะ ส.ส.มาประชุมน้อย ขาดประชุมบ่อย นายอนุทิน กล่าวว่า การยุบสภาเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี คงไม่ก้าวก่าย พรรคภูมิใจไทยเตรียมความพร้อม วาระสภาฯ สมัยนี้จะจบสิ้นในวันที่ 23 มี.ค.66 นับจากนี้ไปก็ 90 วัน เราต้องใช้เวลาที่เหลือทำงานที่ค้างคา ผลักดันโครงการต่าง ๆ แบ่งเวลาลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียง และเยี่ยมประชาชน เพราะหากเป็นรัฐบาลรักษาการจะทำอะไรไม่ได้มาก น่าจะเป็น 3 เดือนที่เร็วมาก