‘ชัชชาติ’ ชื่นชมกีฬานักเรียน ย้ำการเรียนรู้นอกห้องเรียนคือความสำคัญ

ปิด ‘ช้างน้อยเกมส์’ กรุงธนใต้คว้าจ้าวเหรียญทอง ‘ชัชชาติ’ ชื่นชมกีฬานักเรียน ย้ำการเรียนรู้นอกห้องเรียนคือความสำคัญ นำสู่การยอมรับความหลากหลาย

วันนี้ (19 ส.ค.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ​ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีปิดการแข่งขันกีฬานักเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 33 “ช้างน้อยเกมส์” ประจำปี พ.ศ. 2565 พร้อมมอบโล่รางวัลสำหรับนักกีฬาดีเด่นพร้อมทุนการศึกษาเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาทให้แก่นักกีฬาดีเด่น 20 ชนิดกีฬา 34 รางวัล รวมทั้งมอบถ้วยรางวัลการประกวดกองเชียร์ ถ้วยรางวัลการประกวดขบวนพาเหรด และถ้วยรางวัลชนะเลิศผลคะแนนรวม (จ้าวเหรียญทอง) โดยมี นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง

กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการศึกษา จัดการแข่งขันกีฬานักเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 33 “ช้างน้อยเกมส์” ประจำปี พ.ศ. 2565 โดยจัดให้มีการแข่งขัน 3 ระดับ ประกอบด้วย การแข่งขันระดับสำนักงานเขต ระดับกลุ่มสำนักงานเขต และระดับกรุงเทพมหานคร สำหรับการแข่งขันระดับกรุงเทพมหานคร จัดให้มีการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ระหว่างวันที่ 25 ก.ค.- 19 ส.ค.65 โดยมีกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 19 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา เซปักตะกร้อ เทควันโด เทเบิลเทนนิส บาสเกตบอล แบดมินตัน เปตอง ฟุตซอลชาย ฟุตซอลหญิง ฟุตบอลชาย ฟุตบอลหญิง มวยไทยสมัครเล่น วอลเลย์บอลชาย วอลเลย์บอลหญิง วอลเลย์บอลชายหาด หมากรุกไทย/หมากฮอสไทย หมากล้อม คอร์ฟบอล วู้ดบอล และ 1 กีฬาสาธิต ได้แก่ กระโดดเชือก

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า วันนี้มาปิดงานกีฬา “ช้างน้อยเกมส์” ครั้งที่ 33 นับว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะคนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเมือง ดังนั้นสำนักการศึกษาถือเป็นหัวใจของการพัฒนาเมืองและจะมีผลในมิติอื่นๆ ทั้งการสร้างเมือง การลดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการลดความเหลื่อมล้ำของเมือง เด็กมีความรู้ที่ดี มีการงานที่ดี มีครูที่ดีก็สามารถพัฒนาและช่วยเหลือพ่อแม่ได้ เราต้องให้การสำคัญกับการศึกษา จริงๆแล้วไม่ใช่เฉพาะการศึกษาในโรงเรียน การเรียนรู้นอกโรงเรียนก็มีความสำคัญ ดังนั้นการจัดการแข่งขันกีฬาเป็นการทำให้เด็กเรียนรู้ รู้จักการทำงานร่วมกับคนอื่น รู้จักมีระเบียบวินัย มีความอดทน รู้แพ้รู้ชนะ รู้จักให้อภัย รู้จักการทำงานกับคนที่มีความหลากหลาย ปกติอยู่ในโรงเรียนก็เจอกับเพื่อนร่วมห้องพอออกมาเจอโรงเรียนอื่นที่มีความหลากหลายก็จะยอมรับความแตกต่างได้มากขึ้น กทม.เห็นความสำคัญตรงนี้ และจะมีการสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาต่อไปอย่างต่อเนื่อง

“สิ่งที่มีค่าที่สุดของเมืองไม่ใช่ตึกรามบ้านช่อง ไม่ใช่ถนนหนทาง ไม่ใช่รถไฟฟ้าบีทีเอส ไม่ใช่อุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำ สิ่งที่มีค่าที่สุดของเมืองคือคนเพราะว่าเมืองคือคนถ้าเมืองไม่มีคนเมืองก็ไม่มีความหมายแล้วสุดท้ายคุณภาพของคนก็ สะท้อนคุณภาพของเมืองดีเดี๋ยวเมืองก็ดีตาม ถ้าคนไม่ดีต่อให้มีสิ่งปลูกสร้างมากมายขนาดไหนก็ยากที่จะมีเมืองที่ดีได้ คนดีไม่ใช่เรื่องแค่การเรียนมันหมายถึงกิจกรรมต่างๆ การดูแลส่วนรวมการ มีจิตสาธารณะ การมีวินัย

การแข่งขันกีฬาช้างน้อยเกมก็เป็นส่วนประกอบสำคัญของการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนของกรุงเทพมหานคร เราคงไม่ได้มาเรียนฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ประวัติศาสตร์ในกีฬานี้ แต่เราเรียนรู้ถึงการมีน้ำใจ การมีระเบียบวินัย การทำงานกันเป็นทีม การดูแล การรู้จักแพ้ชนะรู้จักให้อภัย รู้จักคนที่มีความแตกต่างจากเรา สิ่งเหล่านี้เราจะไม่เจอในห้องเรียนเพราะในห้องเรียนเราจะเจอคนกลุ่มเดียวกันเจอคนคล้ายกัน เมื่อมาเจอเพื่อนต่างโรงเรียน มีความแตกต่าง แต่นั่นแหละคือสังคมคือเมืองที่เราต้องเรียนรู้” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

“ต้องขอยินดีกับน้องทุกคน ไม่ได้ยินดีกับผู้ชนะ แต่ยินดีกับทุกคนที่มาร่วมงานที่มีส่วนร่วมของงานวันนี้ การชนะมันมีหลายปัจจัย มีเรื่องความโชคดี การฝึกซ้อม พรสวรรค์ สิ่งเหล่านี้บางครั้งควบคุมไม่ได้ แต่การได้มาเป็นส่วนร่วม การได้เจอเพื่อน เป็นการฝึกความมีน้ำใจ อดทน การให้อภัย นี่คือหัวใจของ”ช้างน้อยเกมส์” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวในตอนท้าย

สำหรับรางวัลชนะเลิศผลคะแนนรวม (จ้าวเหรียญทอง) ได้แก่ กลุ่มเขตกรุงธนใต้ 91 เหรียญทอง รางวัลการประกวดกองเชียร์ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ กลุ่มเขตกรุงธนใต้ รองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก รางวัลชมเชย ได้แก่ กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงเทพเหนือ และรางวัลการประกวดขบวนพาเหรด รางวัลชนะเลิศ ได้แก่กลุ่มเขตกรุงธนใต้ รองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ รางวัลชมเชย ได้แก่ กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ กรุงเทพตะวันออก และกรุงเทพกลาง