พิจารณ์ เชื่อ ‘พิธา’ แสดงจุดยืนชัดเจนที่สุดว่าไม่เอาทหาร
พร้อม แก้ปัญหาที่ต้นตอ ยัน นโยบายพรรคไม่เป็นนโยบายประชานิยม แต่ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ
วันนี้ (19 เม.ย. 66) นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องยาก ซึ่งขณะนี้มีแค่พรรคเดียวคือ ก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ ของก้าวไกล ที่พูดชัดเจนที่สุด ว่าเราไม่เอาพรรคทหารจำแลง ดังนั้นถ้าจำนวน ส.ส ที่เลือกเรามีมากพอ จะเป็นตัวกำหนดว่าคณะรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งจะเป็นแบบใด ถ้าอยากเอา 2ป. ออกจากการเมือง เอาทการออกจากการเมือง การเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ก็ต้องกาก้าวไกล
นายพิจารณ์ ระบุว่า ผู้สมัครส.ส.ในพื้นที่ กทม. ของพรรคก้าวไกลมีความหลากหลายของอาชีพมาก จึงนำมาซึ่งการแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อแก้ไขปัญหาใหม่ ๆ โดยผู้สมัครในพื้นที่ กทม. อายุเฉลี่ยของผู้สมัครอยู่ที่ 36 ปี คือวัยที่ทำงาน เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และที่สำคัญที่สุดคือคนที่เชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงไปได้ ไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมจำนนกับปัญหาในสังคม แต่หาทางแก้ไขมัน
“บางพรรคไม่เคยคิดแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ พรรคก้าวไกลจึงจะลดงบกองทัพ ยืนยันว่าการปฏิรูปกองทัพเกิดขึ้นได้แน่นอน อีกเรื่องคือเรื่องการกระจายอำนาจ ที่ผ่านมาพรรคการเมืองต่าง ๆ ไม่มีความจริงใจกับพี่น้องประชาชน ซึ่งพรรคเรามี สิ่งที่พิสูจน์คือเราจริงใจในการออกนโยบายครั้งนี้ อย่างค่าแรงขั้นต่ำ ขึ้นทันที 450 บาท ไม่ใช่การมาเกทับกัน แต่เราจะเอาค่าแรงขั้นต่ำออกจากการเลือกตั้งตลอดไป เพราะค่าแรงจะต้องเพิ่มขึ้นทุกปี ตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตามอัตราเงินเฟ้อ” นายพิจารณ์กล่าว
นายพิจารณ์ กล่าวต่อว่า ความจริงใจอีกอย่างคือนโยบายสวัสดิการ ไม่ใช่นโยบายประชานิยมหาเสียงตอนเลือกตั้ง เราพูดชัดที่สุดว่าจะนำเงินมาจากไหน อะไรที่หาเสียงไว้ ไม่ได้ออกแบบนโยบายเพื่อแลกคะแนนเสียง แต่ออกแบบมาเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศของเรา
“ช่วงการลงพื้นที่มีประชาชนมาบอกเราว่า อย่ายอมแพ้นะ สู้ต่อไป เขาคือคนที่เลือกเราตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ จนตอนนี้เป๋นพรรคก้าวไกล เราจึงเชื่อว่า เพราะอนาคตใหม่ และก้าวไกลคือความหวังของพี่น้องประชาชนจริง ๆ ทุกอย่างที่ทำมา ที่ต่อสู้มา พี่น้องประชาชนเห็นทั้งหมด อีก 20 กว่าวันที่เหลือก่อนการเลือกตั้ง อยากฝากถึงผู้สมัครทุกคนทำให้เต็มที่ เดินทุกที่ เคาะทุกประตู และขอแรงจากพี่น้องประชาชนที่ชอบก้าวไกล เชียร์ก้าวไกล ให้เป็นปากเป็นเสียงให้พรรคเรา ว่าทำไมถึงเลือกก้าวไกล เห็นอะไรในพรรคการเมืองนี้ แล้ววันที่ 14 พ.ค. นี้เราจะชนะไปด้วยกัน” นายพิจารณ์ กล่าวทิ้งท้าย
