นายกฯ แจง ดราม่า พาลูกวิ่งเล่นไม่สนแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ บอก สั่งกรมประมงแล้ว

นายกฯ แจง ดราม่า พาลูกวิ่งเล่นไม่สนแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ บอก สั่งกรมประมงแล้ว ชี้ ชีวิตมนุษย์มีหลายมิติ ขอให้เข้าใจมนุษย์แม่ ย้ำ มีเรื่องงานในหัวตลอด แนะ ให้ดูแลสุขภาพบ้าง บอก รู้สึกปกติ หลังขยับซ้ายขวาก็โดนดราม่า
วันนี้ (19 มี.ค. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีดราม่า พาลูกวิ่งเล่นหน้าสนามหญ้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในขณะที่ประชาชนเดือดร้อนและมีกลุ่ม ผู้ชุมนุมมาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำเมื่อวานนี้ (19 มี.ค.) ว่า คิดว่าถ้าประชาชนฟังอยู่ในคำถามหรือเหตุการณ์ที่โดนว่าไม่สนใจปลาหมอคางดำและพาลูกไปวิ่งเล่น คนเราไม่ได้มีมิติเดียว ทำงาน ก็คือทำงาน เรื่องของประชาชน และความเดือดร้อนแน่นอนอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องปลาหมอคางดำได้สั่งการกรมประมงเรียบร้อยแล้ว และเรื่องของการพาลูกวิ่งเล่น ก็พาลูกวิ่งเล่นทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะฉะนั้น ถ้าใกล้ชิดกับลูกได้ก็อยากใกล้ชิดกับลูก ไม่ได้รบกวนการทำงานแต่อย่างใด เพราะวันใดที่ตารางแน่น ไม่สามารถใกล้ชิดกับลูกได้ ก็ไม่ได้เจอกัน ก็เหมือนพ่อแม่ที่ทำงานทั่วไป เรื่องนี้ต้องมีความเข้าใจในชีวิตของมนุษย์ ชีวิตมนุษย์แม่ก็ทำงาน มนุษย์พ่อก็ทำงาน มนุษย์ลุงป้าน้าอาก็ทำงาน และทุกมนุษย์ก็มีครอบครัว ทุกชีวิตสามารถมีความสุขของตัวเองได้ การจัดสรรเวลาเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ได้แปลว่าทำอย่างหนึ่งแล้วไม่ได้ทำอย่างหนึ่ง ในเรื่องงานก็อยู่ในหัวตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะทำงานทุกวัน แนะนำให้ทุกท่านดูแลสุขภาพแบ่งเวลาให้ถูกต้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อองค์กร ครอบครัว หน่วยงาน และประเทศ
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรี รู้สึกอย่างไร เมื่อขยับซ้ายขยับขวาก็เจอแต่ดราม่า นายกรัฐมนตรี ตอบว่า รู้สึกปกติ ถ้าไม่มีก็อาจจะคิดถึง ขอบคุณมาก
ส่วนจะให้คำมั่นกับประชาชนอย่างไร เพื่อให้ประชาชนสบายใจว่ารัฐบาลจะช่วยแก้ปัญหาอย่างจริงจัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวานนี้สมาคมประมงแห่งประเทศไทย ก็มาขอบคุณที่รัฐบาลได้แก้ปัญหา IUU ซึ่งตนเองก็ได้พูดกับประชาชนที่มารอมามอบดอกไม้มาขอบคุณว่าปัญหาทุกปัญหาของประชาชนไม่ต้องสนว่าจังหวัดใด เพราะคือสิ่งที่รัฐบาลต้องดูแล อันไหนรีบดูแลได้ก็จะรีบ อันไหนเร่งได้ก็จะเร่ง ส่วนอันไหนต้องรอเพื่อความแน่ชัด เพื่อความชัดเจนก็ต้องรอ เพื่อความปลอดภัยก็ต้องทำ ทุกปัญหาไม่มีการชั่งใจว่าปัญหาไหนสำคัญก่อนปัญหาไหน เพราะตนเองคิดว่าถ้าเป็นเราจะทำอย่างไร ซึ่งคำนี้อยู่ในใจของตนเอง ทุกปัญหาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอะไรแก้ได้ อะไรหาทางได้ทำได้ทำแน่นอน ไม่คิดว่า ที่ไหนสำคัญกว่า ปัญหาไหนสำคัญกว่า แต่ถ้าเอามาเทียบ เช่น เกี่ยวกับชีวิตที่ทำให้คอขาดบาดตาย อันนั้น priority ที่สำคัญก่อน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องช่วยแก้ไข และเป็นสิ่งที่ยึดถือ ขอให้เชื่อมั่นในตรงนี้ ทุกอย่างเราก็ทำอย่างเช่นเรื่องฝุ่น เราก็แพลนมา แม้กระทรวงทรัพย์ และหลายคนในที่นี้อาจจะไม่ได้เห็นในสื่อมากมาย แต่ก็ทำงานอย่างแข่งขันเช่นกันเพราะฉะนั้นทุกหน่วยทำงานเช่นกัน