นายกฯ เผย กำชับกำหนดมาตรการลงโทษสินค้าเกษตรที่ใช้การเผา ให้จัดเจน

นายกฯ เผย เทศกาลสงกรานต์มี นทท. เพิ่มขึ้น – กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการลงโทษสินค้าเกษตรที่ใช้การเผา ทั้งในแนะนอกประเทศให้จัดเจน แก้ปัญหาฝุ่น-ไฟป่า – อนุมัตินำร่องโครงการโคแสนล้านตัว

วันนี้ (18 เม.ย. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า การเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในภาพรวม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี โดยในปีนี้มีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น ทั้งเรื่อง บขส. เครื่องบิน รถไฟ เนื่องจากระบบขนส่งต่าง ๆ มีความพร้อมมีความรวดเร็วต้องขอขอบคุณกระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดูแลเรื่องความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกในทุกจุดอย่างเต็มที่ และการจัดงานมหาสงกรานต์ 2567 ประสบความสำเร็จอย่างมากมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากกว่าปีที่ผ่านมาและหลายสื่อยกให้เป็น World Class Event และขอให้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการต่อในช่วงครึ่งหลังเดือนเมษายนนี้เพราะยังมีเทศกาลวันไหล และอีกหลายหลายอย่างที่ต้องทำงานต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า มีการเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการลงโทษชัดเจน สำหรับสินค้าเกษตรที่มีการเผากันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศ ประเทศเพื่อนบ้าน มีการตอกย้ำให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการต่างประเทศ ให้มีการพูดคุย และย้ำเรื่องนี้ว่า เราควบคุมไฟป่าในประเทศไทยได้มากพอสมควรแล้ว แต่ระยะหลังก็มีจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา ถือเป็นเรื่องสำคัญ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้มีการสั่งการให้กรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทยดูแลเรื่องความสะอาด ในการจัดงานมหากุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้มีการทำความสะอาดบ้านเมืองให้ดูสะอาด

ครม. เห็นชอบตามที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านเสนอโครงการโคแสนล้าน นำร่องให้ใช้ทดลองในบางจังหวัด และรายงาน ครม. ให้ทราบก่อนขยายตัวไปจังหวัดอื่น ๆ โดยกำหนดเงื่อนไข ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเสนอคือให้ ธ.ก.ส. เป็นผู้ให้กู้กับสมาชิกกองทุนโดยตรง และให้เกษตรกรเป็นผู้ซื้อโคโดยตรงจากฟาร์มในพื้นที่ ไม่ใช่รัฐซื้อแจก และนายสมศักดิ์เทพสุทินรองนายกรัฐมนตรีที่เป็นเจ้าของโครงการก็รับทราบ และจะนำไปปฏิบัติต่อไป

สุดท้าย ครม. เห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 จำนวน 3.75 ล้านล้านบาทตามที่สำนักงานงบประมาณเสนอ

ผู้สื่อข่าวถามว่าการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ในวันพรุ่งนี้ นายกเทศมนตรีภูเก็ตเสนอให้มีการปรับจังหวัดภูเก็ต เป็นเขตปกครองพิเศษ เพื่อให้บริหารจัดการได้ง่ายขึ้น มีหนังสือมาถึงนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการรายงานมา หากได้รับจะนำไปพิจารณาต่อไป ต้องรวบรวมความคิดเห็นทุกภาคส่วน ในปัจจุบันเชื่อว่ารัฐบาลเอง ให้ความสำคัญกับจังหวัดภูเก็ต เพราะเป็นจังหวัดใหญ่

ส่วนราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นตอนนี้นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กำลังพิจารณาอยู่