พล.อ.ประยุทธ์ โว เกณฑ์ทหาร 66 ตอบรับดี บางเขตมีผู้สมัครเกิน

พล.อ.ประยุทธ์ โว เกณฑ์ทหาร 66 ตอบรับดี บางเขตมีผู้สมัครเกิน บอก ไม่มีระเบียบวินัยสังคมอยู่ร่วมกันไม่ได้วันหน้าจะวุ่นวาย ขอสื่อช่วย
วันนี้ (18 เม.ย. 66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีการเกณฑ์ทหารประจำปี 2566 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับรายงานมาว่าในบางพื้นที่ บางเขตมีการสมัครใจสมัครเกินจำนวนที่ต้องการ ซึ่งตนเองดีใจว่าหลายคนเริ่มเข้าใจ เริ่มสนใจอยากจะเข้ามาเป็นทหาร และมีหลายอย่างด้วยกันที่ถือเป็นข้อยกเว้นในการคัดเลือกเข้าเป็นทหาร การเรียนนักศึกษาวิชาทหาร เรื่องการผ่อนผันการศึกษา ก็มีมาให้ทั้งหมด และวันนี้ก็มีการปรับรูปแบบหลายอย่างในการเกณฑ์ทหาร
พลเอกประยุทธ์ ระบุว่ามีการเกณฑ์ทหารเท่าที่จำเป็นไม่ใช่ว่า 100% ต้องเป็นทหารทั้งหมด ก็มีการจับสลากบ้าง ก็ขอให้ติดตามก็แล้วกันหากเราไม่มีทหาร ก็จะเดือดร้อนเพราะไม่ใช่ทหารทั้งกองทัพ จะมีเฉพาะนายทหาร นายสิบ ก็ต้องมีพลทหารด้วย ในชุดปฏิบัติการในหมู่ ในหมวด และในกองร้อย กองพัน การฝึกทหารในช่วง 3 เดือนแรกเป็นเพียง การปรับพฤติกรรมการฝึก ระเบียบวินัย และการใช้อาวุธ และหลังจากครบ 3 เดือนแล้วก็ต้องมีการฝึกอย่างต่อเนื่อง ฝึกภาคกองร้อย ภาคกองพัน หรือฝึกร่วมผสมอะไรต่างๆ ต้องผสมกันทั้งหมดในการฝึกการทำงาน เพราะมีหน้าที่แตกต่างกัน มีเหล่าถึง 16 เหล่า
ขณะเดียวกันพลเอกประยุทธ์ ระบุว่าได้มีการมอบแนวนโยบาย การเพิ่มคุณวุฒิทางการศึกษาให้มีการเรียนกศน. เพื่อยกระดับการศึกษาให้มากยิ่งขึ้น อย่างน้อย 1-2 ระดับ เพราะเขาอยู่กับเราเพียงแค่ 2 ปีหรือน้อยกว่านั้น ขณะเดียวกันเมื่อกลับไปบ้านก็ต้องมีระเบียบวินัย เป็นผู้นำเป็นหัวหน้าครอบครัว หากเราไม่มีระเบียบวินัยในสังคมก็อยู่ร่วมกันไม่ได้ วันหน้ามันจะวุ่นวาย
นอกจากนี้ยังมีการฝึกอาชีพทหารก่อนปลด ซึ่งก็มีการมอบสิทธิให้สมัครเป็นนายสิบต่อ โดยมีผู้สนใจมากยิ่งขึ้นตามลำดับ ซึ่งวันนี้ทุกคนก็มีความภาคภูมิใจว่าเข้ามาแล้ว ฝึกทหารแล้วได้อะไรกลับไป หากไม่มีทหารเลยอะไรจะเกิดขึ้นตนก็ไม่รู้ ไม่มีประเทศไหนเขาไม่มีทหารหรอก
ส่วนภาครัฐจะมีวิธีการอย่างไรเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจในการเกณฑ์ทหาร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าสื่อก็ช่วยกันพูด เราก็พูดจนเยอะไปหมดแล้ว กรุณาติดตามด้วย ทางกระทรวงกลาโหมก็มีการออกข่าว ออกคลิปออกอะไรต่างๆ เยอะแยะไปหมด ติดตามด้วยสื่อหนังสือพิมพ์ก็มี สื่อโซเชียลก็มี เราต้องช่วยกันขยายสิครับ หากไม่ช่วยกันขยาย ผมพูดคนเดียวคงพูดไม่ได้หรอก ทุกเรื่องต้องสื่อสาร ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับท่าน ถึงแม้ว่าหลายๆ อย่าง ก็จริงบ้างไม่จริงบ้าง ผมก็รับได้ นี่แหละคือการเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทย ผมก็ประชาธิปไตยเต็มที่กับท่านแล้ว กับสื่อกับอะไรผมก็เต็มที่แล้ว กับประชาชนก็เต็มที่แล้ว มันก็เหลือแต่กฎหมายเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นถ้าทุกคนทำอะไรก็ได้ มันก็อยู่กันไม่ได้หรอกประเทศ เรา และตนก็ให้ประชาธิปไตยเต็มใบอยู่แล้ว มากกว่าเต็มใบ ใบครึ่งไปแล้วมั้ง