POLITICS

ม็อบปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด บุกทำเนียบฯ ร้อง นายกฯ แก้ปัญหาปลาหมอระบาดทำลายระบบนิเวศ

ม็อบปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด บุกทำเนียบฯ เทปลา 5 ตัน ร้อง นายกฯ แก้ปัญหาปลาหมอระบาดทำลายระบบนิเวศ ด้าน ‘วิโรจน์’ ซัดรัฐบาล รู้อยู่แก่ใจ แต่ทำเหมือนปัญหาไม่มีอยู่ ปล่อยประชาชนสิ้นเนื้อประดาตัว

วันนี้ (18 มี.ค. 68) ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ม็อบปลาหมอคางดำจากเกษตรกร 19 จังหวัด ชุมนุมเรียกร้องให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับหนังสือตามข้อเรียกร้อง เนื่องจากปลาหมอคางดำระบาดทำลายระบบนิเวศ โดยม็อบปลาหมอคางดำแจ้งว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี ไม่มารับหนังสือด้วยตนเอง จึงเป็นที่มาของการเทปลาหมอคางดำ 5 ตันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล

นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ซึ่งเป็นตัวแทนรับหนังสือ กล่าวว่า กรมประมง ร่วมกับกระทรวงเกษตร และรัฐบาล ผลักดันแก้ปัญหาเรื่อยมา ซึ่งใน 11 มาตรการ ที่ดำเนินเป็นการกำจัดออกจากระบบให้มากที่สุด

นายบัญชา กล่าวว่า กระทรวงเกษตรได้ตั้งคณะกรรมการสอบหาข้อมูล ประกอบชาวประมงยื่นฟ้องอยู่ 3 เรื่อง ขณะนี้ศาลรับว่าให้ฟ้องในแบบกลุ่มได้ อีกทั้งได้ยื่นฟ้องหน่วยงานของรัฐเพื่อควบคุมกำกับ เราชี้แจงไปที่ศาลปกครองกลางเรียบร้อยแล้ว หากผลของศาลออกมาเป็นอย่างไร หน่วยงานรัฐจะทำตามคำสั่งศาล

สำหรับแผนตามกรอบที่เป็นวาระแห่งชาติอยู่ในการจัดการปลาหมอคางดำให้หมดอยู่ที่ 3 ปี เราปรับกันอย่างจริงจัง เทียบเคียงกับปัญหาหอยเชอรี่ก็สามารถกำจัดได้หมด ทั้งนี้ มีการรณรงค์ให้บริโภคปลาหมอคางดำเพราะเป็นปลาเดียวกันกับประเภทอื่น ๆ เช่น ปลานิล สำหรับงบ 450,000,000 บาท ตามวาระแห่งชาติ ตอนนี้กรมประมงเสนอต่อสำนักงบประมาณและของบไป 200,000,000 บาท จะแบ่งใช้ตามสถานการณ์

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ลงพื้นที่ม็อบปลาหมอคางดำ พร้อมกล่าวว่า ทุกพื้นที่มีปัญหาปลาหมอคางดำไปหมด ปลาหมอคางดำอยู่ได้ทุกพื้นน้ำ ทำร้ายชาวประมง คิดว่าปัญหาคือการแก้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมาที่ประชาชนไม่เห็นความจริงใจและความตั้งใจของรัฐบาล ประชาชนสะท้อนปัญหาอย่างตรงไปตรงมา เพราะเขาสิ้นเนื้อประดาตัว ปรากฎว่าถูกฟ้อง และถูกดำเนินคดีจากหน่วยงานเอกชน หากรัฐบาลไม่เข้ามาคลี่คลาย หน่วยงานเอกชนจะตกเป็นผู้ต้องหาโดยที่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่อย่างไร

ส่วนการตรวจสอบ คณะอนุกรรมาธิการศึกษาที่มี นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ ร่วมกับ สส.พรรคประชาชน ทำให้ชี้ผู้ต้องสงสัยได้ในระดับหนึ่ง รัฐบาลควรเอารายงานไปขยายผลต่อ ตรวจสอบซ้ำ และดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉย ทำเหมือนปัญหาไม่มีอยู่ ไม่รู้ว่าเกรงอกเกรงใจใคร สุดท้ายปัญหาที่มีอยู่จริงจะเรื้อรังและรุนแรงมากขึ้น ประชาชนเดือดร้อนสิ้นเนื้อประดาตัว

ทั้งนี้ ปัญหาคือจะแก้ไขอย่างไรต่อไปถ้าไม่กล้าเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริง จะปล่อยให้คนที่ก่อลอยนวนอย่างนั้นหรือ แล้วทางรัฐบาลมาให้สัมภาษณ์ปัญหาในลักษณะว่าปัญหาคลี่คล้ายแล้ว หากรัฐบาลยังไม่ยอมรับว่าปัญหาไม่มีอยู่จริง มีคนสร้างปัญหาจริง ซึ่งรัฐไม่พยายามเอาผิดเพื่อเรียกเอาความรับผิดชอบจากคนนั้น เชื่อว่า นายกฯ รู้อยู่แก่ใจ เพราะรายงานของคณะอนุกรรมาธิการศึกษาส่งไปให้แล้ว ควรมีการรับหนังสือและให้คำมั่นว่าจะแก้ไข แต่ไม่ทำ

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat