‘พล.อ.ประวิตร’ พูดแล้ว นำทัพศึกซักฟอก ส่วนเป็นประเด็นอะไร บอก คอยฟังสิ

ด้าน ‘ไพบูลย์’ อุบ มีหมัดเด็ด 2 ประเด็น โว ประชาชนฟังแล้วจะไม่ผิดหวัง ตอก ‘สงคราม’ หากไม่เป็นอย่างที่พูด ให้มาขอโทษที่พรรค
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ให้คอยฟัง และเมื่อถามว่าจะมีหมัดเด็ดอะไร พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบ ก่อนจะเดินขึ้นรถ และลดกระจกลงยิ้มทักทายกับสมาชิกพรรคที่เดินลงมาส่ง
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร จะเป็นผู้นำการอภิปรายภาพรวม โดยจะกล่าวถึงประเด็นที่ดินอัลไพน์ ซึ่งเป็นที่ดินธรณีสงฆ์ กาสิโน การพนันออนไลน์ และ MOU44 รวมไปถึงเรื่องชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องของครอบครัวนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นอกจากนี้ ยังมีสองประเด็นสำคัญที่อุบไว้ก่อน ซึ่งน่าจะเป็นประเด็นใหม่ เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีเอง
นายไพบูลย์ กล่าวว่า มั่นใจใน พล.อ.ประวิตร ในการอภิปรายในสภาฯ เพราะเป็นผู้ใหญ่ เวลาที่อภิปรายจะเลือกใช้ถ้อยคำแบบผู้ใหญ่และมีน้ำหนัก ต้องทำความเข้าใจว่าการอภิปรายของ พล.อ.ประวิตร เป็นการอภิปรายภาพรวม ส่วนการลงรายละเอียดแต่ละประเด็นเป็นเรื่องของ สส. ที่จะไปขยายต่อ
ส่วนที่ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปรามาสว่าอยากเห็น พล.อ.ประวิตร อภิปรายลงลึกรายละเอียดใน MOU44 มากกว่าที่จะพูดคำว่า “ไม่รู้ ๆ” ให้รอฟัง ไม่เป็นอย่างที่เขาพูดก็แล้วกัน แล้วถ้าไม่ใช่อย่างที่เขาพูด เขาจะทำอะไรให้ ขอโทษกันที่นี่ได้หรือไม่
นายไพบูลย์ ย้ำว่า ประชาชนจะไม่ผิดหวังกับบทบาทของหัวหน้าพรรค ในฐานะเป็นผู้ใหญ่ทางการเมือง และการทำหน้าที่พรรคฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ระดับนี้แล้ว ก็มีเตรียมอะไรสมบูรณ์อยู่แล้ว ส่วนจะอภิปรายกี่นาทีให้รอฟัง แต่ได้เวลาพอสมควร จะไม่มีการพูดเยิ่นเย้อกินเวลา พรรคพลังประชารัฐได้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง มีจำนวนผู้อภิปรายรวม 6 คน ส่วนมีใครบ้างขออุบไว้ก่อน
ส่วนที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม บอกว่า การอภิปรายจะมีงูเห่าโหวตให้รัฐบาล 10 เสียง เป็นเสียงจากพลังประชารัฐหรือไม่ ขอให้คอยดู ใครพูดอะไรก็พูดไป ล่าสุดพรรคมีคำสั่งให้ปลด นางสาวกาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ ออกจากรองเลขาธิการพรรค เพราะไปร่วมกิจกรรมในการเปิดที่ทำการพรรคกล้าธรรม เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จะไม่มีการขับออกจากพรรค แต่รอให้ลาออกเอง
นายไพบูลย์ กล่าวว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จแล้ว มีหลายเรื่องที่จะถูกยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. หรืออาจจะถึงศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่ 2 ประเด็นที่อุบไว้ แต่เป็นประเด็นทั่วไป เชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้จะนำไปสู่ ป.ป.ช. หรือศาลรัฐธรรมนูญ
สำหรับการแบ่งข้อมูลอภิปรายกับพรรคประชาชน ต่างฝ่ายต่างทำ ประเด็นเหมือนกันไม่เป็นไร แต่ข้อมูลข้อเท็จจริงอาจจะแตกต่างกัน ไม่จำเป็นต้องนำข้อมูลมาแสดงกัน เพราะแต่ละคนมีเอกสิทธิ์ และ สส. มีการเตรียมการบ้าน ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่ค่อยร่วมมือกันเท่าไหร่ พรรคร่วมฝ่ายค้านผนึกกำลังกันเหนียวแน่น จากการฟังข่าวพรรคร่วมรัฐบาลรู้สึกง่อนแง่นกันพอสมควร การอภิปรายของพรรคพลังประชารัฐจะทำให้ประชาชนได้เห็นว่าเรามีนายกฯ แบบไหน