POLITICS

‘สงคราม’ เตือนซักฟอกประเด็น MOU44 ระวังเข้าตัว

‘สงคราม’ เตือนซักฟอกประเด็น MOU44 ระวังเข้าตัว ชี้ พาดพิงบุคคลภายนอก ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองไม่ได้

วันนี้ (18 มี.ค. 68) นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวถึงญัตติการขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ว่า แม้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะปรับแก้ไขญัตติที่ยื่นต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ในครั้งแรก โดยตัดชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากญัตติ โดยใช้คำว่า “บุคคลในครอบครัว” แทน ภายหลังตรวจสอบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ถือว่าถูกต้องตามข้อบังคับ

อย่างไรก็ตาม ชัดเจนว่าฝ่ายค้านต้องการอภิปรายเพื่อโจมตีนายทักษิณ บิดาของนายกรัฐมนตรี และครอบครัว เป็นการพยายามกระทำการที่อาจจะก่อให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎข้อบังคับของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และผิดกฎหมายอาญาตามมา

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า แม้จะมีการบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมสภาแล้วก็ตาม แต่การอภิปรายในสภาฯ กำหนดให้สมาชิกพูดกับประธา และคนที่กำลังอภิปรายเท่านั้น ไม่ได้ให้อภิปรายถึงบุคคลภายนอกที่ไม่มีโอกาสชี้แจงในที่ประชุมสภาฯ ดังนั้น หากมีการเอ่ยถึงบุคคลอื่นในครอบครัวของนายกรัฐมนตรีให้ได้รับความเสียหาย ผู้อภิปรายต้องยอมรับผลของการกระทำของตนเองที่อาจจะมีดำเนินคดีตามกฎหมายตามมา หากมีการดำเนินคดีจากคนนอกไม่สามารถใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองได้

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เตรียมอภิปรายนางสาวแพทองธาร ในประเด็นที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ รวมทั้งประเด็น MOU 44 เชื่อว่านางสาวแพทองธารชี้แจงได้ เพราะเป็นประเด็นที่มีการชี้แจงผ่านสื่อสารธารณะกันไปแล้วในหลายวาระ หากจะขุดของเก่ามาอภิปรายก็เป็นสิทธิ์

“ที่ผ่านมาสมัยที่ พล.อ.ประวิตร เรืองอำนาจ หากมีใครไปถามท่านในประเด็นเดียวกันท่านจะตอบว่าแต่เพียงว่า ไม่รู้ ไม่รู้ อย่างเดียว การอภิปรายครั้งนี้หากถามว่าสมัยท่านทำอะไรบ้าง ท่านอย่าตอบว่าไม่รู้ก็แล้วกัน รวมทั้งเป็นโอกาสดีที่ พล.อ.ประวิตร จะมีโอกาสพูดในสภานานกว่า 20 วินาที ไม่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา” นายสงคราม กล่าว

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat