POLITICS

‘คปท. – ศปปส. – กองทัพธรรม’ เรียกร้อง ‘แพทองธาร’ สั่ง สตช. – กรมราชทัณฑ์ ส่งเอกสารการรักษาตัว-ภาพถ่ายทักษิณ ให้ ป.ป.ช.

วันนี้ (17 ก.ย. 67) ที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ หน้าทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม เดินขบวนชุมนุมเรียกร้องคืน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้กระบวนการยุติธรรม และคืนความเป็นธรรมให้กับประเทศไทย ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งมี นางนลินี มหาขันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน เป็นผู้รับ

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. กล่าวว่า การมายื่นหนังสือในวันนี้ คล้ายกับตอนที่ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ประชุม ครม.ครั้งแรก ในปีที่แล้ว ซึ่งพวกเราก็มายื่นหนังสือแบบนี้ พร้อมทวงถามว่ารัฐบาลนายเศรษฐาจะทำตามข้อเรียกร้องที่ยื่นหนังสือไปหรือไม่ ผ่านมา 1 ปี นางสาวแพทองธาร ก็มีการประชุม ครม.นัดแรก จึงมายื่นหนังสือ พร้อมท้วงติงนโยบายเช่นเดียวกัน

นายพิชิต กล่าวต่อว่า วันนี้มาติดตามว่ากรณีของนายทักษิณที่ถูกตั้งคำถามจากสังคมจากคดีที่ คปท.เคยยื่นกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) กรณีที่นายทักษิณไม่อยู่ในเรือนจำ ซึ่ง ป.ป.ช.ทำแบบฟอร์มขอเอกสารการรักษาตัว หรือเลขทะเบียนมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แต่ไม่มีการส่งหนังสือตอบกลับไป เพื่อประกอบสำนวนการไต่สวน ดังนั้น อยากถามนายกรัฐมนตรีว่าจะปล่อยให้กระบวนการเดินหน้าหรือถอยหลัง

“นางสาวแพทองธารในฐานะนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ลูกสาวของนายทักษิณ จะมีการสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งเวชระเบียนการรักษาตัวของนายทักษิณ ไปที่ ป.ป.ช. รวมทั้งสั่งการไปยังกรมราชทัณฑ์ กรณีการบันทึกภาพถ่าย และการรักษาตัวนอกเรือนจำ รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ ที่ ป.ป.ช. ได้ขอไปหรือไม่ ผมคิดว่าคุณอุ๊งอิ๊งค์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะสามารถใช้อำนาจตรงนี้ที่ผู้นำทุกคนมีในการบริหารสามารถสั่งการไปยังกระทรวงต่าง ๆ เพื่อให้กรณีนี้เกิดข้อเท็จจริง”

นายพิชิต ยังกล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลที่ได้คัดค้านมาโดยตลอด 3 อย่าง คือ

1.การแจกเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ยังพูดไม่ตรงกัน หากมีการแจกแบบดิจิทัล ห่วงว่าจะมีการทุจริตครั้งใหญ่คล้ายกับโครงการรับจำนำข้าว จึงอยากให้ทบทวนนโยบาย

2.มีความห่วงใยต่อการฟื้นฟูการเจรจาเรื่องพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งอาจเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัว ระหว่างนายทักษิณกับสมเด็จฮุน เซน มากกว่าประโยชน์ของประเทศ และการประกาศเป็นนโยบายเร่งด่วนอาจนำมาสู่การที่ไทยเสียประโยชน์มากกว่าได้ประโยชน์ อาจนำไปสู่การสูญเสียดินแดน

3.การผลักดันกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งหลายฝ่ายยืนยันว่ารายได้ส่วนนี้อาจไม่ได้มากตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง และอาจจะน้อยกว่าแหล่งเงินจากการท่องเที่ยว อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อเยาวชน รวมทั้งอาจเป็นนโยบายสุ่มเสี่ยง ทำให้ประเทศล่มจม ตลอดจนการเช่าที่ดิน 99 ปี ซึ่งจะทำให้เกิดการครอบครองประเทศไทยไปโดยปริยายแบบที่ถูกกฎหมาย

นายพิชิต ยังฝากถึง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่าจะติดตามข้อเรียกร้องอยู่เรื่อย ๆ เพราะนโยบายเร่งด่วนหลายข้อสามารถสั่งการได้เลย หากปล่อยไปจะเกิดความเสียหาย รวมถึงข้อเท็จจริงที่เรียกร้องให้มีการสั่งงานหน่วยงานราชการ 2 หน่วยงาน ก็ต้องมาติดตามความคืบหน้าด้วย

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat