‘ปิยบุตร’ มองพรรคอื่นไม่เคยสนต้านรัฐประหาร จึงตั้ง ‘อนาคตใหม่’ มั่นใจ ‘ก้าวไกล’ สานต่อได้
วันนี้ (17 เม.ย. 66) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ตอบผู้สื่อข่าว The Reporters ถึงความเห็นของ นายปิยบุตร ต่อจุดยืนการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่ว่า ไม่เชื่อในนโยบายของพรรคเพื่อไทย แต่มั่นใจในนโยบายของพรรคก้าวไกล
นายปิยบุตร กล่าวว่า ส่วนตัวตั้งแต่สมัยเป็นอาจารย์ก็พยายามผลักดันเรื่องนี้มาตลอด ทั้งการป้องกันรัฐประหาร การลบล้างผลพวงรัฐประหาร การแก้ไขกฎหมาย เช่น กฎหมายความมั่นคง กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาตรา 116 กฎหมายการชุมนุม และ พ.ร.บ.คอมฯ เป็นต้น
พอมาตั้งพรรคอนาคตใหม่ จึงตั้งใจจะผลักดันเต็มที่เพราะเล็งเห็นว่าที่ผ่านมาเสนอกันกี่ครั้ง ในทางวิชาการก็เสนอได้แต่ความเห็น แต่นักการเมืองเป็นผู้ปฏิบัติ ซึ่งนักการเมืองในเวลานั้นไม่มีใครเอาไปทำ
พรรคอนาคตใหม่ ตั้งใจว่า เมื่อมีอำนาจรัฐ จะเข้าไปผลักดัน แต่พอดีพรรคถูกยุบไปก่อน แต่เพื่อนพ้องน้องพี่ก็เสนอในสภาฯ หลายร่าง ทราบว่ามีการเตรียมร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่เกี่ยวข้องอีกถึง 40 ฉบับ รวมกับของเดิมที่เสนอไปในสภาฯ ชุดที่ผ่านมา
นายปิยบุตร จึงกล่าวว่า หากพรรคก้าวไกลได้เสียงข้างมากในสภาฯ ก็เชื่อว่ากฎหมายเหล่านี้จะถูกแก้ไขอย่างทันที จึงมั่นใจในพรรคก้าวไกล ส่วนพรรคอื่น ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ แต่ในอดีตที่ผ่านมา เขาไม่ได้ทำเมื่อเขามีอำนาจเท่านั้นเอง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การแสดงความเห็นของ นายปิยบุตร จะบีบแคบโอกาสในการจับมือร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทย หรือไม่ นายปิยบุตร ตอบว่า ส่วนตัวถูกตัดสิทธิไปแล้ว ไม่สามารถแสดงความเห็นใด ๆ ที่จะครอบงำพรรคได้ทั้งสิ้น การร่วมรัฐบาลหรือไม่ เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และต้องรอพิจารณาผลการเลือกตั้งประกอบด้วย แต่เท่าที่ฟังมา ทั้งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กับผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล หลายคน ประกาศจุดยืนชัดเจนว่า ถ้ามีพรรคพลังประชารัฐหรือพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมรัฐบาล พรรคก้าวไกลก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ความเห็นจึงเป็นเช่นนั้น