POLITICS

‘วิโรจน์’ งงวิปรัฐบาลขอต่อรองเวลาอภิปราย ทั้งที่นายกฯ ไร้ปัญหา สะท้อนภาวะผู้นำเสื่อมถอย ศรัทธาแต่ สทร.

วันนี้ (17 มี.ค.68) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดเผยญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่เปลี่ยนถ้อยคำจาก “นายทักษิณ ชินวัตร” เป็น ”บุคคลในครอบครัว“ โดยระบุว่า สาระสำคัญคือความต้องการให้เกิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ต้องการให้เตะถ่วงตามที่หลายคนกังวล ซึ่งการแก้ไขถ้อยคำ ถือเป็นการใช้โอกาสในการเปลี่ยนเพื่อให้อภิปรายได้กว้างขวาง หนักหน่วงมากขึ้น เพราะถ้าบรรจุในญัตติคำว่าทักษิณ ชินวัตร แต่ไปอภิปรายนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดี๋ยวจะโดนประท้วงอีก

การแก้เป็นคำว่าบุคคลในครอบครัว ก็จะนำพาองค์ประกอบจำเลยมาได้หมดทั้งครอบครับ ไม่ว่าจะเป็นญาติโกโหติกา บรรดาคนใกล้ชิดที่มีความเกี่ยวข้องในการกระทำ แทรกแซงการบริหารแผ่นดินของนางสาวแพทองธาร เพราะก่อนหน้านี้หลายคนก็มาปรึกษาว่าไม่ได้แตะคนชื่อนี้ แตะชื่อนั้น ตอนนี้คือทุกชื่อแล้ว สะดวกโยธิน ยังบอกอีกว่าการอภิปรายก็จะเข้มข้นขึ้น ต่อจากนี้จะรอดูว่าถ้าแก้เป็นถ้อยคำแบบนี้แล้ว จะมีการประท้วงหรือไม่

การถือไพ่เปลี่ยนชื่อนี้ เป็นคนละเรื่องกับจำนวนวันเวลาอภิปรายฯ ซึ่งอยากบอกไปยังฝ่ายรัฐบาล ว่าก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เวลา 30 ชั่วโมงไม่มีปัญหา แล้วทำไมฝ่ายบริวารจึงไม่ให้เกียรตินายกรัฐมนตรี ออกมาต่อรองเวลาเหลือ 23 ชั่วโมง เมื่อญัตติถูกต้อง ถัอยคำไม่มีปัญหา ประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องบรรจุวาระ เพราะในข้อบังคับไม่มีระบุเอาไว้ ว่าถ้าเกิดตกลงวันไม่ได้จะไม่บรรจุวาระ

นายวิโรจน์ กล่าวต่อถึงวาทะพรรคเพื่อไทยหัวใจคือ นายทักษิณ นายกรัฐมนตรีคือลูกสาวของหัวใจพรรค จึงอยากให้คนของเพื่อไทยให้เกียรตินายกรัฐมนตรี เคารพในการตัดสินใจที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่มีปัญหา ในเวลา 30 ชั่วโมง ตราบใดที่ผู้นำฝ่ายค้านยังไม่อภิปรายปิด ก็ยังไม่สามารถลงมติไม่ไว้วางใจได้ เรื่องนี้ตนเองได้รับคำแนะนำจากนายสุทิน คลังแสง และนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สมัยที่เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่นายวิโรจน์ เคยเสนอให้นายทักษิณเข้ามาตอบการอภิปรายในสภาฯ นายทักษิณ จึงบอกว่าให้ระวังว่าจะเสียไปอีกพรรค ให้ไปถามผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ นั้น นายวิโรจน์ ระบุว่าข้อบังคับการประชุมที่ 76 หากประธานสภาฯ อนุญาต นายกรัฐมนตรีก็พาพ่อมาส่งที่สภาฯ ได้ แต่นายทักษิณจะตอบได้เฉพาะที่ถูกพาดพิง ส่วนการอภิปรายหรือการกล่าวหานายกรัฐมนตรี นายทักษิณก็ทำได้แค่นั่งมองตาปริบ ๆ อยู่ลึก ๆ หลัง ๆ เท่านั้น

ส่วนสาระสำคัญของโปสเตอร์แคมเปญอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาชนที่ระบุว่า “ดีลแลกประเทศ” ที่เปิดออกมานั้น ความหมายสื่อถึงพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะตระบัดสัตย์ กลืนน้ำลายทุกอย่าง พร้อมที่จะทำอะไรก็ตามที่ประชาชนเสียผลประโยชน์และได้ผลประโยชน์ของตัวเองและครอบครัว เอารัดเอาเปรียบประชาชน ให้บุคคลในครอบครัว สทร. หรือสุดที่รัก กลับมาเสวยสุข ทวงคืนอำนาจและทรัพย์สินของตัวเองโดยที่ไม่เห็นหัวประชาชน

นายวิโรจน์ ย้ำว่าการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่าใช้เวลา 30 ชั่วโมงไม่มีปัญหา แต่บริวารในพรรคออกมาต่อรองเหลือ 23 ชั่วโมง จึงไม่เข้าใจว่าคนในพรรคไม่เคารพหัวหน้าพรรรคตนเองหรือ หรือแม้แต่วันนี้ไม่ศรัทธาหัวหน้าพรรคแล้ว ศรัาธาแต่ สทร. คือ ปัญหาความเสื่อมถอยในภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าผู้ที่ต่อรองเวลาแบบนี้ จะเป็นการสร้างผลงานเพื่อนำไปต่อรองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่เป็นการกระทำที่ไร้สติปัญญา และทำให้ภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีดูต้อยต่ำลง และเรื่องเวลาอภิปราย อยากให้วิปรัฐบาลฟังสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดด้วย

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat