‘ศิริกัญญา’ บอก รัฐบาลโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต อย่าเอาหลังพิงองค์กรอิสระ
‘ศิริกัญญา’ บอก รัฐบาลอยู่นิ่ง ๆ คิดทบทวนอีกสักครั้ง หลัง ป.ป.ช. ส่งสัญญาณเตือน ดิจิทัล วอลเล็ต ชี้ อย่าเอาหลังพิงองค์กรอิสระ
วันนี้ (17 ม.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ( สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งความเห็นถึงรัฐบาลกรณีออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินกู้ 500,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ว่า เป็นเพียงคำแนะนำ รับฟังไว้แต่ไม่จำเป็นต้องทำตาม เรื่องการดำเนินนโยบายเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของรัฐบาล ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม ไม่ได้เป็นข้อกฎหมายอะไรที่จำเป็น ขอให้องค์กรอิสระ ทำงานในกรอบหน้าที่ของตนเอง หลายเรื่องที่มองแล้ว ก็รู้สึกว่าไม่ใช่หน้าที่ของ ป.ป.ช. ด้วยซ้ำ แต่หากเป็นข้อคิดเห็นที่มีประโยชน์รัฐบาลก็ควรรับฟัง แต่ไม่ควรมาเป็นจุดอ้างอิงอ้างอิง ว่าที่เราไม่ได้ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพราะ ป.ป.ช. ให้ความเห็นแบบนี้ ตนเองอยากให้รัฐบาลรับผิดชอบอย่างเต็มที่ หากโครงการนี้ไปต่อไม่ได้ ก็ให้เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลโดยตรง ไม่ต้องเอาหลังพิงองค์กรอิสระ
“ดิฉันไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมีการเลื่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวานนี้ ทั้งที่ความเห็นของ ป.ป.ช. ก็คือความเห็นของ ป.ป.ช. ถ้าเราสามารถพิจารณากันได้เองโดยไม่ใช้ความเห็นของ ป.ป.ช. ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เป็นจุดเด่นควรจะรับฟัง แต่ก็ไม่ได้เป็นจุดเปลี่ยนจุดตายของโครงการนี้ว่าจะไปต่อได้หรือไม่” น.ส.ศิริกัญญากล่าว
ส่วนที่ ป.ป.ช. ให้ความเห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศยังไม่ถึงจุดวิกฤต แต่มีความเสี่ยงจากหลายด้าน โดยอ้างอิงจากนิยามธนาคารโลก 7 ประเภท อันที่จริงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศยังไม่เข้าขั้นแม้แต่ข้อเดียว เหมือนเป็นการตอกย้ำสิ่งที่เคยพูดมาแล้ว แต่ถ้าเป็นฝ่ายค้านพูดน้ำหนักก็อาจจะฟังดูน้อย และแฝงไปด้วยนัยยะทางการเมือง หลายเรื่องที่ระบุใน ป.ป.ช. ก็เป็นเรื่องที่เคยพูดมาแล้ว
ส่วนหากไม่ออกเป็น พ.ร.บ. เงินกู้ แต่ใช้งบกลางจาก ปี 68 จะมีปัญหาอีกหรือไม่นั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ก็เป็นทางที่เป็นไปได้มากที่สุด แต่งบ 68 ก็จะเข้ากรณีเดียวกับงบ 67 คือไม่มีที่ว่างเหลือให้ใส่โครงการ 500,000 ล้าน ต้องตัดเข้าไปในส่วนงบลงทุนด้วยซ้ำไป ถ้ายังไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องโครงสร้างงบประมาณให้แล้วเสร็จ และลดขนาดโครงการให้เล็กลง พอยัดเข้าไปในงบ 68 ได้ก็เป็นเรื่องที่ปลอดภัยที่สุดที่สามารถทำได้ เข้าใจว่าเมื่อวานนี้มีการพูดคุยกันในเรื่องกรอบงบประมาณ ปี 68 ทางสำนักงบประมาณก็คงจะได้พูดคุยกับทางรัฐบาลเรียบร้อยแล้วว่าโครงการนี้จะบรรจุเข้าไปในงบปี 68 ได้หรือไม่
สำหรับทางลงที่ดีที่สุดของรัฐบาลคือการยุติโครงการดิจิทัล วอลเล็ต หรือไม่นั้น น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า คงมีโอกาสที่จะทำได้ โดยการลดขนาดโครงการให้เล็กลง และพยายามใช้วิธีการแนวทางที่เป็นไปได้ตามกฎหมายก่อน หรือจะไปแก้ไข พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2542 ว่าในกรณีที่รัฐบาลอยากจะกู้เงิน ประเทศอาจไม่จำเป็นต้องวิกฤติก็ได้ ซึ่งรัฐบาลก็คุมเสียงข้างมากในสภาอยู่แล้วก็อาจจะทำได้ในรัฐบาลนี้
ส่วนถ้ารัฐบาลยังใช้เงื่อนไขเดิมทั้งหมด จะเกิดปัญหาในอนาคตหรือไม่นั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า มีปัญหาแน่ ๆ ขณะนี้ติดล็อคทางกฎหมาย แต่ไม่แน่ใจว่าจะนำไปสู่อะไร สุดท้ายแล้ว คนที่จะลุยไปด้วยกันไม่ใช่แค่รัฐบาล แต่ทางสภาก็ต้องโหวตให้กฎหมายที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย ข้าราชการที่มีส่วนร่วมในการลงมติ และคณะกรรมการฯ ต้องลงมาอยู่ในร่างแหนี้ด้วย จึงอยากให้รัฐบาลคิดทบทวนว่าจะหาทางลงให้โครงการนี้อย่างไรดี
ส่วนความกังวลว่าจะซ้ำรอยกับโครงการจำนำข้าวนั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่สามารถเทียบเคียงกับโครงการจำนำข้าวได้เลย ถ้าจะเทียบเคียงคงต้องเทียบเคียงกับพ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้าน ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินว่าชอบด้วยกฎหมายก็ไม่ได้มีใครได้รับผลกระทบทางกฎหมาย ยกเว้นคนที่เสียบบัตรแทนกันคนเดียว
ส่วนฝ่ายค้านจะแนะนำอะไรกับรัฐบาล น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลอยู่นิ่ง ๆ คิดทบทวนอีกสักครั้งหนึ่ง อย่างถี่ถ้วน ว่ามีโอกาสที่จะเป็นไปได้อย่างไรบ้าง ตอนที่หาเสียงยังมีอำนาจรัฐยังไม่มีแขนขาที่เป็นข้าราชการอาจจะคิดไม่ออกว่าจะต้องทำด้วยวิธีการใด และคิดว่าจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีการใด ระหว่างนี้ยังเห็นด้วยว่าเศรษฐกิจมันไม่ดีมีการเติบโตต่ำ ถึงจะไม่ถึงขั้นวิกฤติ แต่ก็ยังมีปัญหาที่จำเป็นจะต้องแก้ในระยะสั้น และแก้ไขโครงสร้างในระยะยาว ดังนั้นเรื่องอะไรที่ต้องทำทันทีต้องทำได้แล้วอย่ามัวแต่รอดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ทำสักทีเพราะถ้าเกิดวิกฤติจริงก็รอไม่ได้
“รัฐบาลต้องทำอะไรซักอย่าง เพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น แม้ต้องรอถึงเดือนพฤษภาคม เราคิดว่าล่าช้าเกินไป และต้องมาลุ้นอีกว่าจะทำหรือไม่ได้ทำ ควรต้องเริ่มทำสักทีด้วยงบกลาง ตอนนี้แม้จะมีอยู่น้อยก็ต้องออกโครงการอะไรขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนรู้สึกว่าการจับจ่ายใช้สอยมันคล่องตัวมากขึ้นแล้ว” น.ส.ศิริกัญญากล่าว