กมธ.ปปง. เตรียมเชิญ ปปง.-สอบสวนกลาง-ผู้บริหารดิไอคอน-ผู้เสียหาย เข้าแจงสัปดาห์หน้า

กมธ.ปปง. เตรียมเชิญ ปปง.-สอบสวนกลาง-ผู้บริหารดิไอคอน-ผู้เสียหาย เข้าแจงสัปดาห์หน้า เข้าข่ายผิดกฎหมาย 3 ฉบับ ยันไม่เกี่ยวข้องคลิปเสียง

วันนี้ (16 ต.ค.67) คณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ แถลงผลการประชุม เรื่องร้องเรียนบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัดว่า คณะกรรมาธิการจะติดตามประเด็นของการฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากคดีนี้ประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

โดยสัปดาห์หน้าจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลในเบื้องต้น ได้แก่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตำรวจสอบสวนกลาง ผู้เสียหาย และผู้บริหารของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป มาชี้แจง เราเห็นว่าเรื่องนี้มีข้อเท็จจริงที่หลากหลาย มาจากหลายภาคส่วน มีความพยายามในการหาข้อกฎหมายที่จะมีช่องให้สามารถเอาผิด กับผู้บริหารของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ปได้ ดังนั้นถ้าการพิจารณาคดีนี้ไม่เสร็จสิ้น คณะกรรมาธิการคณะใหญ่ก็มีแนวทางว่า จะมีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการ เพื่อติดตามให้จนถึงที่สุด

ขอเรียนให้กับพี่น้องประชาชนได้สบายใจว่า คณะกรรมาธิการ ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนของพี่น้องประชาชน ที่เป็น สส.ผู้ทรงคุณวุฒิ จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และติดตามคดีนี้จนถึงที่สุด การพิจารณาของคณะกรรมาธิการที่ผ่านมา มีการส่งฟ้องไปที่ศาลแล้ว ยืนยันว่าพี่น้องประชาชนจะได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเยียวยา หรืออย่างไรก็ตาม เพราะเราเคยดำเนินการในการตั้งคณะอนุกรรมาธิการ และก็ติดตามคดีจนถึงที่สุดมาแล้ว เช่น คดีของการฉ้อโกงของบริษัท สตาร์คคอร์ปอเรชั่น อีกประการหนึ่ง ซึ่งเป็นข้อดีของการตั้งคณะอนุกรรมาธิการ เพราะต้องการให้เป็นที่พึ่งของประชาชนที่เดือดร้อนจริง ๆ เป็นศูนย์กลางให้กับผู้เสียหาย

เท่าที่ทราบขณะนี้สภาฯ อาจจะมีการพิจารณาญัตติด่วนเรื่องนี้ในวันที่ 17 ต.ค.นี้ ถ้ามติของสภาฯ มีมติอย่างใดอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการก็น้อมรับ ยินดีที่จะรับไปดำเนินการ

อย่างไรก็ตามจากการหารือกับนักกฎหมาย มีข้อสรุปว่าเกี่ยวข้องกับกฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาดแบบตรง และ พ.ร.ก.การให้กู้ยืมที่เกี่ยวเนื่องกับการฉ้อโกงประชาชน ยืนยันว่ามีโอกาสที่จะเข้าข่ายในการกระทำความผิดกฎหมายแน่นอน ส่วนคลิปเสียงยืนยันว่า ไม่มีการมาเจรจาหรือเคลียร์ใด ๆ ทั้งสิ้น และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธิการ

เมื่อถามว่าจะมีการไปสังเกตการณ์การประชุมของ คณะกรรมาธิการ สคบ.ด้วยหรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะต้องมีการสื่อสารกันระหว่างประธานคณะกรรมาธิการอีกครั้ง ซึ่งต้องดูว่าเมื่อผ่านการพิจารณาแล้วไม่จบ จะมีการตั้งคณะอนุกรรมธิการมาทำต่อจากคณะกรรมาธิการชุดนี้ โดยคณะกรรมาธิการฯ ก็มีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการไปแล้ว 2 คณะ คือเรื่องบริษัทสตาร์คคอร์เปอเรชั่น ที่เสร็จและส่งมอบงานเรียบร้อยแล้ว ส่วนคณะที่สองเป็นเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อออกกฏหมายแก้ไข ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ สส.และพรรคการเมือง จะนำโครงร่างกฎหมายจากคณะอนุกรรมาธิการ ไปเสนอต่อไป เพื่อช่วยแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากเดิมที่มีเพียงพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

สำหรับบุคคลที่จะเชิญมา จะรวมไปถึงกลุ่มของดาราด้วยหรือไม่ นายเลิศศักดิ์ ระบุว่า การตั้งคณะอนุกรรมาธิการ ข้อดีคือสามารถเชิญบุคคลภายนอกที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในเรื่องที่จะพิจารณาเข้ามาเป็นคณะอนุกรรมาธิการ และจัดตั้งที่ปรึกษาได้อีก ซึ่งจะมีการดำเนินการเชิญบุคคลต่าง ๆ จนกระทั่งได้ข้อมูลข้อเท็จจริงครบทั้งหมด ยืนยันว่ามีการเชิญแน่นอน ทั้งคนที่เป็นอินฟูเอนเซอร์ และดารา

เมื่อถามว่า จะมีการตรวจสอบร่วมกับคณะกรรมาธิการคณะอื่นด้วยหรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า แล้วแต่ ถ้าคณะกรรมาธิการนั้น ๆ เห็นว่าสามารถทำงานได้ ก็ตั้งได้ ไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธิการฯ แต่โดยเนื้อหาหลักเป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการฯ เรา ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อทำให้ครอบคลุม และไม่ให้เกิดการล่าช้า เราจึงวางแนวทางตามนี้ ส่วนคณะกรรมาธิการอื่นอาจจะเกี่ยวข้องกับบางเรื่อง สำหรับการดำเนินการของสภาฯ ใหญ่ คาดว่าจะมีการพิจารณาเสนอเป็นญัตติด่วน แต่แล้วแต่มติของสภาฯ ว่าจะมอบให้คณะกรรมาธิการชุดใด หรือจะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาดำเนินการ ซึ่งคงต้องติดตามกันอีกครั้ง