‘สุชาดา’ ตรวจสอบจุดเกิดเหตุรุ่นพี่รุมทำร้ายรุ่นน้อง
‘สุชาดา’ ตรวจสอบจุดเกิดเหตุรุ่นพี่รุมทำร้ายรุ่นน้อง และพ่อ ชี้ มีทั้งประเด็นการรับน้อง และทะเลาะวิวาท สั่ง มทร.สุวรรณภูมิ วิทยาเขตนนทบุรี รายงานผล 19 ส.ค.นี้ หากผิดจริงไล่ออกทันที พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (16 ส.ค. 67) น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. และ นายวันนี นนท์ศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวง อว. ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (มทร.สุวรรณภูมิ) วิทยาเขตนนทบุรี ถูกรุ่นพี่รุมทำร้ายหลังไปขอลาออกจากระบบรับน้อง และขอย้ายคณะ โดยมีคณะผู้บริหาร มทร.สุวรรณภูมิ และ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ร่วมเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
น.ส.สุชาดา เปิดเผยว่า เบื้องต้น มทร.สุวรรณภูมิ ชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่นักศึกษารุ่นพี่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับรุ่นน้อง เป็นการจัดกิจกรรมนอกสถานศึกษา ซึ่งจะต้องเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นกิจกรรมรับน้องหรือไม่ และหากเป็นการฝ่าฝืนจัดกิจกรรมรับน้องจริง จะดำเนินการตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.2551
ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยมีข้อบังคับ ประกาศ นโยบาย และมาตรการ ในการดำเนินกิจกรรมการรับน้องอย่างเคร่งครัด โดยไม่ให้จัดกิจกรรมนอกสถานศึกษา เพื่อความปลอดภัยของนักศึกษา นอกจากนี้ เรื่องดังกล่าวต้องแยกเป็นอีกประเด็น คือเรื่องการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายในสถานศึกษา หลังจากที่มีการมาขอลาออกจากระบบรับน้องและขอย้ายคณะ ซึ่งเหตุดังกล่าวถือเป็นความผิดที่ชัดเจน เพราะมีพยานหลักฐาน มีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพ โดยที่ประชุมมีมติให้มหาวิทยาลัยรายงานผลการตรวจสอบมายังกระทรวง อว.ภายในวันที่ 19 ส.ค.นี้
น.ส.สุชาดา กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการดำเนินสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการกฎหมายควบคู่ไปด้วย และหากพบว่านักศึกษารุ่นพี่กลุ่มดังกล่าวกระทำความผิดจริง จะไม่มีการละเว้น และจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ซึ่งมีโทษถึงไล่ออกทันทีพร้อมดำเนินคดี
“เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.กระทรวง อว.มีความห่วงใย และต้องการให้เร่งหาตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ รวมทั้งมีความจริงจังในการจัดการกับปัญหาเพราะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ และจะมีการยกระดับมาตรการการป้องกันโดยภายในสัปดาห์หน้าจะมีการเรียกประชุมมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเพื่อไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำ และไม่ให้เกิดขึ้นอีกในสถานศึกษา” น.ส.สุชาดา กล่าว
