POLITICS

’มาริษ‘ แสดงวิสัยทัศน์ ประกาศไทยกลับสู่ประชาธิปไตยแล้ว เร่งฟื้นภาพลักษณ์ประเทศ

’มาริษ‘ แสดงวิสัยทัศน์ ประกาศไทยกลับสู่ ปชต.แล้ว เร่งฟื้นภาพลักษณ์ประเทศ เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน พร้อมเป็น Key Player สำคัญสร้างสันติสุขในเมียนมา

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบปะสื่อมวลชนหลังเข้ารับตำแหน่งในงาน Meet the Press ครั้งที่ 1 ณ ห้องวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ภารกิจด้านการต่างประเทศ ที่มุ่งฟื้นฟูภาพลักษณ์เรียกความเชื่อมั่นคืนสู่ไทย ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือทางด้านธุรกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวซึ่ง รัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นการทำธุรกิจร่วมกันระหว่างประเทศไทยและมิตรประเทศ เพื่อบอกให้ประชาคมโลกทราบว่าประเทศไทยกลับคืนสู่การเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยแล้ว และไม่มีช่วงเวลาใดที่จะเหมาะสมกับการทำธุรกิจไปมากกว่าช่วงนี้

นอกจากนี้เราจะให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ผลักดันนโยบายเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับนโยบายการต่างประเทศ สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนรากหญ้าของทั้งสองประเทศ อดีตไทยพึ่งพาปัจจัยภายนอก เกือบ 70% ของ GDP ขึ้นอยู่กับการค้าระหว่างประเทศ เราต้องการดึงดูดการลงทุน และสร้างศักยภาพในการแข่งขัน พัฒนาพัฒนาฝีมือแรงงานให้อยู่ในระดับเดียวกันกับที่หลายประเทศต้องการ รองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งจะนำมาซึ่งความอยู่ดีกินดีของประชาชนชาวไทย

ส่วนความร่วมมือกับสถานเอกอัคราราชทูตทั่วโลก จะช่วยให้ไทยดึงดูดการลงทุนนจากต่างประเทศ ดังนั้นภาครัฐและภาคเอกชนต้องทำงานเป็นเนื้อเดียวกัน ประเทศไทยตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ประเทศไทย มีศักยภาพพร้อมทั้งด้านอาหาร การแพทย์ การท่องเที่ยว และการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ สอดรับกับนโยบาย Ignite Thailand ของนายเศรษฐา

เราเห็นการร่วมมือทวิภาคี และความร่วมมือกับมิตรประเทศ รัฐบาลส่งเสริมให้ประเทศไทยทำความตกลง FTA ในตลาดใหม่ เข่น แอฟริกา เอเชียกลาง และลาตินอเมริกา พร้อมกับการให้วีซ่าฟรี นักท่องเที่ยวต่างขาติ เพราะ 20% ของ GDP ไทยมาจากการื่อยากองเที่ยว เราจะเดินหน้า 6 Countries 1 Destination ร่วมมือกับประเทศชายแดนทำให้การท่องเที่ยวคึกคัก โดยจะนำระบบ ETA มาช่วยติดตามนักท่องเที่ยวด้วย ขณะที่การผลักดันนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ จะแลกเปลี่ยนกับประเทศอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

นายมาริษ กล่าวช่วงหนึ่งถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในเมียนมาว่า เราต้องการเห็นสันติสุขในเมียนมา
มีหลายประเด็นที่ต้องการแก้ไข เช่น ธุรกิจสีเทา คอลเซ็นเตอร์ และยาเสพติด เราจะเป็น Key Player ในการสร้างสันติสุข มุ่งเน้นการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมต่อไป เราอยากเห็นการยุติการสู้รบในเมียนมา หลายเรื่องที่มีความเปราะบางต้องค่อย ๆ ทำ

นายมาริษ กล่าวสรุปว่าเราจะเน้นบทบาทของประเทศไทยให้เข้มข้นขึ้นเป็น Key Player ในประชาคมโลก สร้างบทบาทและเกียรติภูมิให้กับประเทศไทย มุ่งเน้นผลักดันความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน มีผลเป็นรูปธรรมสร้างความอยู่ดีกินดีลงไปถึงรากหญ้าของประเทศ และต้องการเห็นประชาชนของประเทศทั้งสองที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศยั่งยืน

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat