เลขาฯ ป.ป.ช. แจง ‘พิธา’ ยื่นเป็น ผู้จัดการมรดกจริง มีคำสั่งศาลประกอบ
เลขาฯ ป.ป.ช. แจง ‘พิธา’ ยื่นเป็น ผู้จัดการมรดกจริง มีคำสั่งศาลประกอบ พร้อมให้ข้อมูล กกต. หากร้องขอ
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปี 2562 แล้ว พบว่า กรณีการถือหุ้น ITV นายพิธาได้แนบเอกสารคำสั่งศาลว่า เป็นผู้จัดการมรดกมาด้วย ซึ่งเป็นเอกสารประมาณปี 50 ทั้งนี้ จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารกับทางศาล แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบว่ามีสถานะอื่นด้วยหรือไม่
ส่วนการยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน หลังพ้นตำแหน่ง ส.ส. ตอนนี้นายพิธา ยังไม่ได้มีการยื่นมาให้กับ ป.ป.ช. ยังคงเหลือกรอบเวลายื่นได้ถึงวันที่ 18 มิถุนายน 2566 เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คำสั่งศาลดังกล่าว จะทำให้มีน้ำหนักหรือไม่ว่า นายพิธาเป็นผู้จัดการมรดกโดยศาลสั่ง ไม่ได้เป็นผู้ที่ตั้งใจจะถือหุ้นมาตั้งแต่ต้น เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า เรื่องเจตนาก็ต้องไปดูกัน แต่ทรัพย์สินที่เขายื่นมาไม่ว่าจะยื่นในนามส่วนตัวหรือในนามผู้จัดการมรดกเขาก็ยื่นมา และเป็นการยื่นตามกฎหมาย ป.ป.ช. ไม่เกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามการเป็น ส.ส. ซึ่งตามกฎหมาย ป.ป.ช. เมื่อเขายื่นมาเราก็จะตรวจสอบตามประเด็นที่เขายื่น ส่วนจะเป็นผู้จัดการมรดกจริงหรือไม่ ก็ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมตามที่เขาได้ชี้แจงไว้
ส่วนจะมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนนี้ในการเปิดบัญชีทรัพย์สิน กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. หรือไม่ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช. กำลังพิจารณาอยู่ และยืนยัน ว่า ป.ป.ช. พร้อมให้ข้อมูล หาก กกต. ขอข้อมูลหลักฐานส่วนนี้เข้ามา เพราะเป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณชนอยู่แล้ว
และเหตุใดยื่น 4 ปีแล้ว ยังสอบทานเอกสารกับศาลไม่เสร็จนั้น เลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวว่า ตอนนี้เอกสารที่ตรวจสอบกับศาล ทางศาลบอกว่าไม่ได้เก็บเอาไว้แล้ว เราต้องพยายามหาเอกสารตัวนี้มาเพื่อยืนยันว่าเป็นเอกสารที่ศาลรับรองถูกต้องใช่หรือไม่ ทั้งนี้เอกสารที่ผู้ยื่นมาทุกอย่าง ป.ป.ช. จะต้องมีการตรวจสอบซ้ำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่เท่าที่รีเช็กไปต่างก็ยังอาจจะหาไม่เจอเพราะว่ามันนานแล้ว
ปกติเอกสารต่างๆ ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ต้องตรวจสอบในช่วงเวลานั้นๆ โดยไม่ต้องรอให้เกิดประเด็น เลขา ป.ป.ช. กล่าวว่า ปกติที่ยื่นมาเราจะตรวจสอบความถูกต้อง ความมีอยู่จริง ดังนั้น เราก็จะตรวจสอบไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนเหตุที่ตรวจสอบล่าช้า เพราะเราจะต้องสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรณียื่นว่ามีบัญชีกับธนาคารกสิกรไทยเท่านั้น เท่านี้ มีที่ดิน ก็ต้องรีเฟอร์ไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจริงหรือไม่ เพื่อให้ส่งสำเนาตอบกลับมาว่าจริง
เมื่อถามว่าเมื่อศาลบอกว่าแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก กรณี ‘พิธา’ ไม่ได้เก็บต้นเรื่องเอาไว้ คู่ฉบับก็ไม่มีแล้วจะทำอย่างไรนั้น ก็ต้องให้นายพิธา แนบเอกสารเพิ่มเติมเข้ามา
หากนายพิธายื่นบัญชีทรัพย์สินภายในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ ก็ต้องแจกแจงว่าโอนมรดกนี้ไปให้น้องชายใช่หรือไม่ เลขา ป.ป.ช.กล่าวว่า โดยหลักแล้วจะยื่น ณ วันที่พ้นแล้วว่า มีทรัพย์สินอะไร ถ้าไม่มีหุ้น ITV อยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องยื่น เพียงแต่ว่าอาจจะมีกรณีที่ ป.ป.ช. อาจจะต้องสอบถามไปเพราะเป็นในกรณีประเด็นสำคัญว่าตกลงแล้วหุ้น ITV ได้มีการจำหน่าย จ่ายโอนไหม จากกรณีปกติถ้าเขาไม่มี ณ วันที่พ้นก็ไม่ต้องยื่น
เมื่อถามตามข้อกฎหมายเมื่อพ่อเสียชีวิตแล้ว หุ้นของพ่อจะกลายเป็นหุ้นมรดกจะตกแก่ทายาทโดยอัตโนมัติผลของกฎหมายซึ่งทายาทมี 3 คนแบ่งส่วนเท่าๆ กัน โดยทายาท 1 คน ถูกตั้งให้เป็นผู้จัดการกองมรดก ซึ่งจะมีมิติซ้อนทางกฎหมายซ้อนเป็นทายาทผู้รับหุ้นมรดกด้วยหรือไม่ เลขา ป.ป.ช. กล่าวว่า ตามกฎหมาย ป.ป.ช. ที่กำหนดให้มีการยื่นบัญชีจะยื่นบัญชีของผู้ยื่น ณ วันที่มีหน้าที่ต้องยื่นต้องเป็นทรัพย์สินของเขาจริงๆ เช่น วันนี้มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องเขามีการค้ำประกันให้กับบุคคลอื่น ซึ่งการค้ำประกันเมื่อเขายังไม่มีการผิดนัด ผู้ค้ำประกันยังไม่ถูกเรียก มูลหนี้ยังไม่เกิด ดังนั้น เขายังไม่มีหนี้ที่ต้องยื่น ซึ่งก็เหมือนกับกรณีผู้จัดการมรดก ถ้าเขาถือในฐานะผู้จัดการมรดกก็ยังไม่รู้ว่าสัดส่วนที่เขาจะได้รับเท่าไร หุ้นไม่มีการจ่ายเขาในฐานะส่วนตัวหรือแบ่งแยกในฐานะส่วนตัว