‘วราเทพ’ ไม่รู้ ‘พลเอกประวิตร’ สละเก้าอี้ ส.ส.หรือไม่

เตรียมประชุมยุทธศาสตร์พรรคพรุ่งนี้บ่ายสาม มองไม่เร็วไป ‘ก้าวไกล’ คุยตั้งรัฐบาล

วันนี้ (15 พ.ค.66) นายวราเทพ รัตนากร คณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงผลคะแนนการเลือกตั้งว่า พรรคพลังประชารัฐได้เป็นลำดับที่ 4 คิดว่าคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก ต้องรอผลอย่างเป็นทางการที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรอง และดูว่าจะมีการร้องเรียนหรือไม่ โดยพรรคยังไม่มีการหารือทิศทาง เพราะเพิ่งผ่านการเลือกตั้ง ขอเวลาพักก่อน อาจจะวันพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ ที่จะมีการพบปะพูดคุย ซึ่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ยังไม่ได้ให้แนวทางอะไร ก็คงจะให้ทุกคนดูผลที่ออกมา ประเมินและวิเคราะห์แต่ละพื้นที่ ต้องบอกว่าบางพื้นที่พรรคคาดหวัง แต่ก็พลาดเป้าหมายไป บางพื้นที่ก็มีโอกาสขึ้นมาคือบางพื้นที่เป็นเขตรองแต่ก็ได้ ส่วนเขตที่คิดว่าจะได้ก็ไม่ได้ เป็นเรื่องธรรมดา ทุกพรรคก็น่าจะเหมือนกัน

เมื่อถามว่าในพื้นที่กำแพงเพชรที่ได้ยกจังหวัด ถือว่าเกินความคาดหมายหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า กำแพงเพชรตั้งเป้าไว้ว่าจะยกทีมทั้งจังหวัด ซึ่งก็ทำได้ ส่วนที่พรรคก้าวไกล ออกมาแถลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคฝ่ายค้านเดิม ถือว่าเร็วเกินไปหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ถ้าพูดถึงการเลือกตั้งในทุกยุคทุกสมัย หลังผลคะแนนออกก็ต้องมีท่าทีของพรรคที่ได้รับเลือกตั้งสูงสุด เป็นเรื่องปกติไม่ถือว่าเร็ว แต่ด้วยกติกาที่ต้องมีการเลือกนายกรัฐมนตรีรูปแบบใหม่ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ก็คิดว่าเร็วไป เพราะยังมีสัดส่วนของการลงคะแนนในส่วนของสมาชิกวุฒิสภาด้วย

เมื่อถามว่าถึงตอนนี้แกนนำพรรคพลังประชารัฐได้พูดคุยกับพรรคอันดับ 2 อย่างพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ข้อมูลที่ตนเองรับรู้ ยังไม่มีการพูดคุย และคาดว่าไม่น่าจะมี

เมื่อถามว่าเชื่อมั่นว่า พรรคก้าวไกลจะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพูดคุยของพรรคที่เป็นแกนนำหลัก เมื่อถามต่อว่าพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย สามารถที่จะร่วมกันได้ใช่หรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า คงพูดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่พรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 เป็นคนพูด ขอให้รอก่อน เพราะเพิ่งเลือกตั้งมาเมื่อวาน คนคงอยากเห็นรัฐบาลเร็ว ๆ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพรรคที่ได้รับคะแนนสูงสุดที่จะดำเนินการ ซึ่งขั้นตอนก็มีอยู่แล้วว่าถ้าสามารถพูดคุยตกลงได้ก็เป็นที่ชัดเจน แต่ยังไม่ได้ก็มีเวลาอยู่ เพราะต้องรอกกต.รับรอง ซึ่งกฎหมายให้เวลาถึง 60 วัน และต้องรอดูว่าแต่ละพื้นที่ว่ามีการร้องเรียนมากน้อยแค่ไหน โดยเป็นการทยอยรับรองเหมือนที่ผ่านมา เมื่อครบ 95% ก็เปิดสภาได้ แต่ต้องไม่เกิน 60 วัน เพราะฉะนั้นทุกอย่างอยู่ในระยะเวลาที่กำหนดกฎหมายกำหนดอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าสัดส่วนบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ ดูเหมือนจะได้น้อยเกินไปหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า คงต้องวิเคราะห์ แต่ตนเองมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่มีใครคาดคิด หลายพรรคก็คงจะทราบว่าคะแนนที่คิดว่าน่าจะได้ก็หายไปหมด คือได้ผลลบมากกว่า ยกเว้นพรรคก้าวไกล ที่มีผลบวกมากกว่าผลลบ

เมื่อถามว่าประเมินผลที่ออกมาอย่างไร เพราะเหมือนกับประชาชนไม่ต้องการคนเก่าแล้ว นายวราเทพ กล่าวว่า คงให้เหตุผลไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ แต่โดยภาพรวมก็ดูตามคะแนนที่ออกมา จะเห็นว่าสะท้อนอะไร

เมื่อถามว่าบ้านใหญ่ก็ราบคาบไปเยอะ นายวราเทพ บอกว่า ไม่ทราบว่าแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร เพราะยังไม่ได้ดูของใครมาก ยังไม่ได้ลงลึกรายจังหวัด ส่วนจะเอาตรงนี้มาเป็นบทเรียนสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ มองว่าเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพราะเราอยากเห็นเสถียรภาพของรัฐบาล ไม่อยากเห็นการเลือกตั้งบ่อย ประเทศจะได้มีรัฐบาลที่เข้มแข็ง สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้

เมื่อถามต่อว่าพลเอกประวิตร ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 จะปฏิบัติหน้าที่เองหรือไม่ นายวราเทพ เปิดเผยว่า ต้องรอฟังการตัดสินใจขอเป็นพลเอกประวิตร และรอเปิดสภาฯ ก่อน ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า พรุ่งนี้ (16 พ.ค.66) เวลา 15.00 น.พรรคพลังประชารัฐนัดประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค เพื่อสรุป ผลการเลือกตั้ง และทิศทางของพรรค โดยมีพลเอกประวิตร เป็นประธาน