POLITICS

‘คารม’ เห็นใจ 44 สส.อดีตก้าวไกล ที่ถูก ปปช. เรียกรับทราบข้อกล่าวหา ลงชื่อแก้ไข ม.112

‘คารม’ เห็นใจ 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่ถูก ปปช. เรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา กรณีร่วมลงชื่อแก้ไข ม.112 เผย “คนเป็นนักกฎหมายก่อนจะลงชื่อต้องคิดก่อน” ชี้​ สส.​ แม้​เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ​ แต่บางอย่างทำไม่ได้ เมื่อบางพรรคไม่อยากเสี่ยงขัดกฎหมาย ไม่เห็นด้วย จึงเป็นเอกสิทธิ์ของ สส.

นายคารม พลพรกลาง อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ และอดีต สส.พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า จากติดตามจากข่าวทราบว่าตอนนี้ คณะกรรมการ ปปช. ได้มีหนังสือไปยังทั้ง อดีต สส.พรรคก้าวไกล และที่เป็น สส. พรรคประชาชนที่ได้ร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า ตนเองไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้น เพราะว่าตนเองถูกกันไม่ให้ร่วมกิจกรรมของพรรคก้าวไกลตั้งแต่วันแรก ที่ตนย้ายเข้าพรรคก้าวไกลแล้ว แต่ถ้าได้มีส่วนร่วม ก็ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แน่นอน

“แม้คนธรรมดายังมีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ328 คุ้มครอง ซึ่งมาตรา 112 นั้น เป็นกฎหมายป้องกันการกัดเซาะบ่อนทำลายสถาบันกษัตริย์ ด้วยการวิพากวิจารณ์ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ที่มีความสำคัญยิ่งต่อบ้านเมือง เป็นสถาบันที่ทำให้บ้านเมือง มีหลัก ทำให้บ้านเมืองมั่นคงแข็งแรง“นายคารม ย้ำถึงเหตุผลที่ไม่ควรแก้มาตรา 112

นายคารมกล่าวต่อว่าตนเองไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ สส.ลงชื่อจะผิดหรือถูก และจะมีความรุนแรงขนาดไหน เพราะมีองค์กรที่จะตัดสินอยู่แล้ว และจะไม่ไปซ้ำเติมเพื่อน สส. เหล่านี้ แม้ว่าจะทำกับตนเองไว้เยอะมากในช่วงนั้น แต่โดยหลักการแม้ สส. ซึ่งเป็นคนออกกฎหมาย และเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจออกกฎหมาย มีอำนาจแก้ไขกฎหมายก็ตาม แต่บางอย่างแม้มีอำนาจก็อาจทำไม่ได้ ไม่อย่างนั้น หากมี สส.บางคน บางพรรค เสนอให้ประเทศไทยเป็นหลายรัฐไม่ใช่ราชอาณาจักรอันหนึ่งเดียวกันก็ใช่ว่าจะทำได้ เช่นเดียวกับทำไมรัฐการแก้รัฐธรรมนูญ จึงห้ามแก้หมวด 1 นี่คืออีกเหตุผลว่าทำไมพรรคภูมิใจไทยจึงเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงต้องมีการถามประชาชนหรือทำประชามติก่อนซึ่งตามหลักการคือประชาชนเป็นผู้สถาปนารัฐธรรมนูญ เพราะพรรคไม่อยากเสี่ยง เรื่องนี้คล้ายกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เมื่อบางพรรคไม่อยากเสี่ยง ไม่เห็นด้วยจึงเป็นเอกสิทธิ์ของ สส.ถ้าใครอยากเสี่ยง ก็อาจเป็นเหมือน สส.ของบางพรรคที่ได้ลงชื่อแก้ไข ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งวันนี้ผลมันก็ออกมาแล้ว อย่างที่เป็นข่าวว่า ปปช. เริ่มเชิญไปรับข้อกล่าวหาแล้ว

”ความจริงผมเป็นพยานคนหนึ่งที่ ปปช.เชิญไปให้ถ้อยคำในฐานะพยานที่ใกล้ชิดเหตุการณ์ผมก็ได้ไปให้การไปตามความจริงที่ผมรับรู้มา โดยอุปนิสัยผมไม่เคยข้ามคนล้ม แต่ตอนที่ผมล้ม เหยียบผมจมธรณีเลยทุกคน เพราะฉะนั้นก็ขอพูดความจริงว่า วันพระไม่มีหนเดียว สำหรับเพื่อนเก่าที่จะให้ผมไปเป็นพยานช่วยนั้น ผมยินดีนะครับ เพื่อนก็คือเพื่อน แต่ผมจะพูดตามจริงเท่านั้น คนเป็นนักกฎหมายก่อนจะลงชื่อต้องคิดก่อน“ นายคารม ย้ำ

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat