จิราพร เปรียบ “ลูกไม้หล่นไม่ไกลค่าย” เผย หลานนายกฯ ใช้บ้านในค่ายทหารทำธุรกิจส่วนตัวถึง 5 ปี
วันนี้ (15 ก.พ. 66) นางสาวจิราพร สินธุไพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 28 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยอภิปรายทวงถามนโยบายเร่งด่วนเรื่องการปราบปรามทุจริต ว่าได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงบุคคลใกล้ตัวด้วยหรือไม่
นางสาวจิราพร อ้างอิงถึง นายปฐมพล จันทร์โอชา เปิดบริษัทธุรกิจห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) โดยใช้บ้านพักในค่ายทหารเอกาทศรถ ทำธุรกิจส่วนตัวถึง 5 ปี และได้งานประมูลของรัฐในวงเงินที่สูง ต่อมาทนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมไม่ไหว จึงได้ย้ายที่ตั้งสำนักงานออกจากค่ายทหาร แต่ยังเดินหน้าประมูลงานของรัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีข้อพิรุธน่าสงสัย เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีสถานะขาดทุน
“การที่หลานชาย พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ค่ายทหารเปิดบริษัท อาจเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ … พฤติกรรมของหลาน พล.อ.ประยุทธ์ คือลูกไม้หล่นไม่ไกลค่าย”
นางสาวจิราพร กล่าวต่อไปว่า หลังตรวจสอบกลับพบว่า หจก. ดังกล่าว มีเครื่องมือและอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ทั้งสำนักงานใหญ่ยังมีสภาพเป็นเพียงบ้านพักปกติ แต่กลับรับจ้างรับเหมาก่อสร้างโครงการของรัฐ มูลค่าหลายสิบล้านบาทได้ และเมื่อพิจารณาสภาพที่ตั้งของบริษัทคู่เทียบที่เข้ามาแข่งขันราคากับ หจก.ของหลาน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่สมกับเป็นสถานประกอบการแต่อย่างใด
และเมื่อตรวจสอบแล้วยังพบว่ามีพฤติการณ์สมยอมราคากัน เพราะกลุ่มบริษัทที่มาเป็นคู่เทียบกับ หจก.ของหลาน พล.อ.ประยุทธ์ เสนอราคาไล่เลี่ยกัน ต่างกันไม่เกิน 1% เป็นเรื่องบังเอิญที่ไม่น่าเชื่อ
“ที่ผ่านมาคนมักจับตา 3 ป. ในสภาฯ ว่ามีอิทธิพลกันมาก แต่ยังมีอีก 3 ป. ที่มีอิทธิพลไม่แพ้กัน คือ ป.ประยุทธ์ ป.ปรีชา และ ป.ปฐมผล 3 ป. ในรัฐบาลแยกกันเดินแล้ว แต่ 3 ป. ข้างนอกยังเดินด้วยกันอยู่ เพราะ ป.ประยุทธ์ ทำรัฐบาล ป.ปรีชา เป็นปลัดกระทรวง ป้อนงานให้ ป.ปฐมพล” นางสาวจิราพร กล่าว
นางสาวจิราพร ยังตั้งข้อสังเกตว่า หจก. ของหลาน พล.อ.ประยุทธ์ อาจมีการตกแต่งบัญชีรายได้เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี เพราะแม้จะได้รับประมูลงานจากรัฐเป็นจำนวนมาก แต่กลับมีงบบัญชีที่ขาดทุน และยังมีบัญชีค่าน้ำค่าไฟน้อยเกินกว่าที่จะเป็นไปได้ จึงเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรตรวจสอบประเด็นดังกล่าว เพื่อปราบปรามการทุจริต
นางสาวจิราพร ยังเปิดเผยข้อมูลความเชื่อมโยงของ หจก.หลาน พล.อ.ประยุทธ์ ที่เกี่ยวโยงกับกลุ่มทุนสีเทาชาวจีน และได้ทำธุรกิจนำเข้ารถยนต์โดยสารร่วมกับ ตู้ห่าว ผู้ต้องหาคดียาเสพติดและฟอกเงิน
“การจะทำเรื่องใหญ่ระดับชาติ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาทุจริต ต้องเริ่มจากหน่วยเล็กที่สุด คือครอบครัว พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่ามาเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยใจซื่อบริสุทธิ์ ไม่เคยโกงแม้แต่บาทเดียว ช่วยไปตรวจสอบหน่อยว่าครอบครัวของท่านมีความเกี่ยวข้องกับการทุจริตนี้หรือไม่อย่างไร” นางสาวจิราพร กล่าว
วันนี้ (15 ก.พ. 66) นางสาวจิราพร สินธุไพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 28 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยอภิปรายทวงถามนโยบายเร่งด่วนเรื่องการปราบปรามทุจริต ว่าได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงบุคคลใกล้ตัวด้วยหรือไม่
นางสาวจิราพร อ้างอิงถึง นายปฐมพล จันทร์โอชา เปิดบริษัทธุรกิจห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) โดยใช้บ้านพักในค่ายทหารเอกาทศรถ ทำธุรกิจส่วนตัวถึง 5 ปี และได้งานประมูลของรัฐในวงเงินที่สูง ต่อมาทนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมไม่ไหว จึงได้ย้ายที่ตั้งสำนักงานออกจากค่ายทหาร แต่ยังเดินหน้าประมูลงานของรัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีข้อพิรุธน่าสงสัย เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีสถานะขาดทุน
“การที่หลานชาย พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ค่ายทหารเปิดบริษัท อาจเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ … พฤติกรรมของหลาน พล.อ.ประยุทธ์ คือลูกไม้หล่นไม่ไกลค่าย”
นางสาวจิราพร กล่าวต่อไปว่า หลังตรวจสอบกลับพบว่า หจก. ดังกล่าว มีเครื่องมือและอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ทั้งสำนักงานใหญ่ยังมีสภาพเป็นเพียงบ้านพักปกติ แต่กลับรับจ้างรับเหมาก่อสร้างโครงการของรัฐ มูลค่าหลายสิบล้านบาทได้ และเมื่อพิจารณาสภาพที่ตั้งของบริษัทคู่เทียบที่เข้ามาแข่งขันราคากับ หจก.ของหลาน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่สมกับเป็นสถานประกอบการแต่อย่างใด
และเมื่อตรวจสอบแล้วยังพบว่ามีพฤติการณ์สมยอมราคากัน เพราะกลุ่มบริษัทที่มาเป็นคู่เทียบกับ หจก.ของหลาน พล.อ.ประยุทธ์ เสนอราคาไล่เลี่ยกัน ต่างกันไม่เกิน 1% เป็นเรื่องบังเอิญที่ไม่น่าเชื่อ
“ที่ผ่านมาคนมักจับตา 3 ป. ในสภาฯ ว่ามีอิทธิพลกันมาก แต่ยังมีอีก 3 ป. ที่มีอิทธิพลไม่แพ้กัน คือ ป.ประยุทธ์ ป.ปรีชา และ ป.ปฐมผล 3 ป. ในรัฐบาลแยกกันเดินแล้ว แต่ 3 ป. ข้างนอกยังเดินด้วยกันอยู่ เพราะ ป.ประยุทธ์ ทำรัฐบาล ป.ปรีชา เป็นปลัดกระทรวง ป้อนงานให้ ป.ปฐมพล” นางสาวจิราพร กล่าว
นางสาวจิราพร ยังตั้งข้อสังเกตว่า หจก. ของหลาน พล.อ.ประยุทธ์ อาจมีการตกแต่งบัญชีรายได้เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี เพราะแม้จะได้รับประมูลงานจากรัฐเป็นจำนวนมาก แต่กลับมีงบบัญชีที่ขาดทุน และยังมีบัญชีค่าน้ำค่าไฟน้อยเกินกว่าที่จะเป็นไปได้ จึงเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรตรวจสอบประเด็นดังกล่าว เพื่อปราบปรามการทุจริต
นางสาวจิราพร ยังเปิดเผยข้อมูลความเชื่อมโยงของ หจก.หลาน พล.อ.ประยุทธ์ ที่เกี่ยวโยงกับกลุ่มทุนสีเทาชาวจีน และได้ทำธุรกิจนำเข้ารถยนต์โดยสารร่วมกับ ตู้ห่าว ผู้ต้องหาคดียาเสพติดและฟอกเงิน
“การจะทำเรื่องใหญ่ระดับชาติ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาทุจริต ต้องเริ่มจากหน่วยเล็กที่สุด คือครอบครัว พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่ามาเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยใจซื่อบริสุทธิ์ ไม่เคยโกงแม้แต่บาทเดียว ช่วยไปตรวจสอบหน่อยว่าครอบครัวของท่านมีความเกี่ยวข้องกับการทุจริตนี้หรือไม่อย่างไร” นางสาวจิราพร กล่าว