ระดมกำลังกว่า 3.5 หมื่นนายดูแลความปลอดภัยเอเปค

กองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยฯ แถลงความพร้อมรองรับการประชุมเอเปค ระดมกำลังดูแลความเรียบร้อย กว่า 35,000 นาย ขอประชาชน ร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี เผย คอยจับตากลุ่มเฝ้าระวัง ขู่ หากเคลื่อนไหว ละเมิดกฎหมาย พร้อมดำเนินคดีทันที
วันนี้ (14 พ.ย. 65) กองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัย และการจราจร การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค นำโดย พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกตร. และคณะ ร่วมแถลงมาตราการการรักษาความปลอดภัย และการจราจรในช่วงการประชุมเอเปค 2022 ในช่วงวันที่ 14-20 พฤศจิกายนนี้
พล.ต.ต.อาชยน ระบุว่า เส้นทางการจราจรบริเวณโรงแรมที่พัก และสถานที่ประชุม จะมีการรักษาความปลอดภัยบริเวณต่าง ๆ รวมถึงมีหน่วยร่วมปฏิบัติ 27 หน่วย โดยในทุกวันจะมีการประชุม เพื่อรับฟังสถานการณ์ และติดตามสถานการณ์ต่าง ๆตลอด 24 ชั่วโมง
ซึ่งวันนี้ได้มีการเปิดศูนย์รักษาความปลอดภัยร่วมฯ และได้มีการรายงานความพร้อม ซึ่งมีทาง พล.อ.ประวิตรวงษ์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์กองอำนวยการร่วมคร และมีทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์กองอำนวยการร่วมตรงจุดนี้ก็จะมีการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมการปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมาย และร่วมกันปฏิบัติงาน ตามแผนของกองอำนวยการร่วมฯ รวมทั้ง ติดตาม กำกับดูแล การปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยการประชุมฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้กอ.ร่วม จะมีการประชุมติดตามสถานการณ์ทุกวันในเวลา 09:00 น. โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลความปลอดภัย และการจราจร
ด้านการบริหารจัดการดูแลการชุมนุม ได้มีประกาศพื้นที่ห้ามชุมนุม คือ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โรงแรมที่พักทั้ง 19 แห่ง สถานที่จัดงานเลี้ยงรับรองของผู้นำ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานได้สะดวกตลอดช่วงการประชุม 14-19 พ.ย.65 ทั้งนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงทุกฝ่าย แม้การชุมนุมจะเป็นสิทธิกระทำได้ตามกฎหมาย แต่ต้องไม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีตลอดจนสุขอนามัยของประชาชน หรือความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ และไม่กระทบกระเทือนสิทธิคนอื่น ผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายทุกรายและมีโทษหนักถึงจำคุก เราจะยอมให้ใครมาสร้างความเสียหายให้กับประเทศไม่ได้โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามยุทธวิธี เป็นขั้นเป็นตอนตามระดับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น
หากจะมีการยื่นข้อเรียกร้อง หรือแสดงความคิดเห็นต่างๆ กระทรวงการต่างประเทศได้จัดสถานที่สำหรับการยื่นหนังสือไว้แล้ว ที่กระทรวงการต่างประเทศ และสถานกงสุลที่แจ้งวัฒนะรวมทั้งการขอให้ใช้สิทธิในการชุมนุม ขอให้ไปยื่นขอตามสถานที่ที่ได้จัดไว้ให้ หากมีการชุมก็ต้องมีการแจ้งการชุม
ด้านการรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางเข้าประจำการณ์ในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.65 โดยมีการระดมกำลังตำรวจ ทั้งประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กว่า 35,000 นาย เพื่อระวังป้องกันตัวผู้นำ ตลอดจนสถานที่พัก ที่ประชุม ที่จัดงานเลี้ยงรับรอง และเส้นทางทุกสาย ที่มีขบวนรถผู้นำผ่าน รวมทั้งระดมชุดปฏิบัติการพิเศษ สายตรวจรถยนต์ จากตำรวจภูธรภาค 1,2 และ 7 เข้ามาช่วยในพื้นที่ กทม. เพื่อช่วยในการเฝ้าระวังเหตุ และป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ครอบคลุมทุกสถานที่ 29 จุด และพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งจัดกำลังเฝ้าระวังบุคคลเป้าหมายที่อาจมีความเคลื่อนไหว และบุคคลตามหมายจับ ทุกรายอีกด้วย หากมีการละเมิดกฎหมายก็จะดำเนินคดีทันที
พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ แสงเสียงฟ้า รองผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่มีการรองรับการรายงานข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของตม. มีการจัดเจ้าหน้าที่ไว้ตรวจสอบผู้ร่วมงานการประชุมอย่างชัดเจน ส่วนคนทั่วไปก็ยังเดินทางได้สะดวกไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ ตม.มีเจ้าหน้าที่ดูแลที่สุวรรณภูมิ 1 พันนาย ช่องตรวจมี119 ช่อง พร้อมจัดกำลังพลหมุนเวียนเต็มอัตรา ซึ่งในระดับผู้นำจะมีการจัดห้องรับรองพิเศษไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และไม่มีผลกระทบต่อผู้โดยสารทั่วไป
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ดูแลด้านการจราจร กล่าวว่า ในด้านการจราจร ที่อาจส่งผลกระทบกับประชาชนในช่วงที่มีการประชุม เนื่องจากจะมีการปิดถนน รัชดาภิเษก ช่วงหน้าหอประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (แยกอโศกมนตรี-แยกพระรามสี่) และถนนดวงพิทักษ์ รวมถึงสถานี MRT ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันที่ 16-19 พ.ย.65 ทั้งนี้ยังไม่มีความกังวล เนื่องจากในห้วงดังกล่าวรัฐบาลได้ประกาศเป็นวันหยุดราชการ และได้จัดให้มีรถรับส่ง shuttle bus จำนวน 6 คัน คาดว่าเพียงพอสำหรับรับส่งประชาชนที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว
ส่วนมาตรการอำนวยความสะดวกพิธีการคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ให้เต็มทุกช่องตรวจ ช่องตรวจอัตโนมัติ (Auto Chanel) และจัดชุดช่วยเหลือประชาชน นักท่องเที่ยว แนะนำช่วยเหลือในเรื่องพิธีการคนเข้าเมือง ระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับกับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามามากขึ้น