สภา กทม.ถกญัตติด่วน ชงเพิ่มประตูระบายน้ำ-เครื่องสูบน้ำ
แก้ปัญหาน้ำท่วม ด้านรอง ผอ.สำนักระบายน้ำ แจง ฝนหนักสุดในรอบ 30 ปี ยันเร่งระบายน้ำเต็มที่
วันนี้ (14 ก.ย.65) ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 3) ประจำปีพุทธศักราช 2565 นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.เขตลาดกระบัง ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้กรุงเทพมหานครเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะพื้นที่โซนตะวันออกโดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้พระสงฆ์ในวัด ประชาชนในชุมชน และประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาในพื้นที่ 3 แขวง ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งสำนักงานเขตลาดกระบัง สำนักการระบายน้ำได้สนับสนุนกระสอบทรายให้บางส่วน และสำนักสิ่งแวดล้อมได้มอบห้องน้ำเคลื่อนที่เพื่อบรรเทาปัญหาในเบื้องต้น อย่างไรก็ตามพบว่าเครื่องสูบน้ำซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพตะวันออกบางจุดขัดข้องและยังไม่ได้รับการแก้ไข รวมถึงประตูระบายน้ำไม่มีการระบายน้ำจากพื้นที่จากตะวันออกไปตะวันตก และยังขาดเครื่องผลักดันน้ำและเครื่องสูบน้ำ ดังนั้นจึงขอทราบแนวทางการบริหารจัดการน้ำของ กทม. รวมถึงขอเสนอแนะแนวทางการแก้ไขระยะยาว ดังนี้
1.เพิ่มประตูระบายน้ำและเขื่อน
2.เพิ่มเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ
3.ลอกท่อและลอกคลองอย่างเป็นระบบ
นางกนกนุช กลิ่นสังข์ ส.ก.เขตดอนเมือง ขอให้ กทม.สำรวจเส้นทางน้ำดอนเมือง หลักสี่ว่า มีสิ่งกีดขวางทำให้ทางเดินน้ำไม่สะดวกหรือไม่ ด้าน นายนริสสร แสงแก้ว ส.ก.เขตบางเขน กล่าวว่า เขตบางเขนน้ำสูงเป็นวิกฤติมาก ขอสนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำ และดูแลพื้นที่ก่อสร้าง ไม่ให้มีเศษหินปูน กีดขวางทางระบายน้ำ และให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเครื่องมือต่าง ๆ ให้มีความพร้อมใช้งาน
นางสาวรัตติกาล แก้วเกิดมี ส.ก.เขตสายไหม กล่าวว่า ไม่ว่าเครื่องมือจะดีแค่ไหน แต่ลำคลองยังมีผักตบชวาอัดแน่น จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาการระบายน้ำได้ เหมือนกับเส้นเลือดที่อุดตัน ดังนั้นจึงขอให้สำนักการระบายน้ำให้ความสำคัญกับการขุดลอกคูคลองให้มากขึ้น รวมถึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) จัดสรรกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ให้เพียงพอ
นางสาวปิยะวรรณ จระกา ส.ก.เขตสวนหลวง ขอให้ฝ่ายบริหารเร่งรัดเยียวยาดูแลผู้ประสบภัย และให้เขตสำรวจข้อมูลผู้ประสบภัย ส่งให้สำนักป้อกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อช่วยเหลือเร่งด่วนโดยเร็ว ส่วน นางสาวมธุรส เบนท์ ส.ก.เขตสะพานสูง กล่าวถึงปัญหาหมู่บ้านใหญ่ในพื้นที่ซึ่งน้ำยังไม่ลด และระดับน้ำในคลองยังไม่ลด ประกอบกับโครงการบ้านจัดสรรใหม่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น กีดขวางทางเดินน้ำ จึงขอให้ฝ่ายบริหารวางแผนผังเมืองและหาแนวทางแก้ไข รวมถึงป้องกันปัญหาโรคที่จะตามมา และลูกบอลอีเอ็มเพื่อบำบัดน้ำเสีย นายฉัตรชัย หมอดี ส.ก.เขตบางนา ขอให้สำนักการระบายน้ำสนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องสูบน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่เพิ่มเติม
นายสมบัติ วรสินวัฒนา รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. ชี้แจงว่า ช่วงที่ผ่านมากรุงเทพมหานครมีฝนตกต่อเนื่องมาโดยตลอด และพบว่าฝนเดือน ก.ย.ปีนี้มากกว่าค่าเฉลี่ยฝนในเดือนเดียวกันปีที่แล้ว และสูงสุดในรอบ 30 ปี ทั้งนี้สำนักการระบายน้ำได้วางผังการบริหารจัดการน้ำไว้เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้ร่วมมือกรมชลประทาน กองทัพไทย กองทัพเรือ ใช้เครื่องสูบน้ำแก้ไขปัญหาในพื้นที่ต่อเนื่อง ส่วนของปัญหาของเขตลาดกระบัง ขณะนี้สถานีสูบน้ำพระโขนงมีกำลังสูบ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้สูบน้ำออกจากพื้นที่ไปแล้ว 130 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือในพื้นที่อีก 40 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากไม่มีฝนเพิ่มจะใช้เวลาระบายน้ำในเขตลาดกระบัง 4 วัน ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำจะได้เร่งระดมเครื่องมือ เครื่องจักร และบุคลากรทำงานระบายน้ำในทุกพื้นที่อย่างเต็มที่เพื่อลดผลกระทบกับประชาชน