‘แสวง’ เตือนพรรคประชาชนรับบริจาคออนไลน์ต้องทำตามกฎหมาย เสี่ยงผิดถึงขั้นยุบพรรค
‘แสวง’ เผยพรรคประชาชนตั้งสาขาไม่ครบแต่ยังไปต่อได้ เตือนรับบริจาคออนไลน์ต้องทำตามกฎหมาย เสี่ยงผิดถึงขั้นยุบพรรค
วันนี้ (14 ส.ค. 67) นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีที่มีการยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบการตั้งสาขาของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็นพรรคประชาชนว่า อดีตมีการจัดตั้งครบ 4 สาขาในแต่ละภาค เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 1 ปีจริงหรือไม่ ตามกฎหมายแล้ว ความเป็นพรรคการเมือง มีอยู่ 3 ลักษณะ คือ
1.ความเป็นพรรคการเมืองเกิดขึ้นทันทีในวันที่จดทะเบียนจัดตั้ง ซึ่งพรรคอาจยังไม่มีสาขา มีสมาชิกไม่ครบ แต่พรรคสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้ทันที รวมถึงสามารถรับบริจาคได้ โดยพรรคจะต้องหาสมาชิกพรรคให้ได้ไม่น้อยกว่า 5,000 คน และจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองอย่างน้อยภาคละ 1 สาขา ภายในกำหนดเวลา 1 ปี
2.พรรคที่มีความสมบูรณ์คือ มีสมาชิก มีสาขาพรรคครบตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดภายในระยะเวลา 1 ปี
3.พรรคที่ดำเนินกิจการไปแล้ว อยู่ ๆ สาขาพรรคหาย เช่น สมาชิกไม่ครบก็ขอยกเลิกสาขาพรรค แต่กฎหมายให้เวลาจัดตั้งสาขาพรรคในส่วนที่ขาดให้ครบ 4 ภาค ภายใน 1 ปี
สำหรับกรณีของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล เมื่อวันที่ 4 เม.ย.67 มีหนังสือแจ้งถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอยกเลิกสาขาพรรค 3 แห่ง เหลือเพียงสาขาภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อกฎหมายให้เวลาจัดตั้งสาขาให้ครบภายใน 1 ปี คือภายในวันที่ 3 เม.ย.68 ดังนั้นความเป็นพรรคการเมืองยังคงอยู่ เมื่อพรรคก้าวไกล หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค และสมาชิกย้ายมาอยู่พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชน ไม่ว่าพรรคจะมีสาขาพรรคครบหรือไม่ ก็ยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้ ผู้บริหารพรรคชุดใหม่ต้องจัดตั้งสาขาพรรคให้ครบตามเงื่อนไขภายใน 1 ปี ตามที่กฎหมายเปิดโอกาสให้ ซึ่งเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาพรรคก็มีการแจ้งการจัดตั้งสาขาพรรคเพิ่มเติมมายังนายทะเบียนฯ แล้ว
นายทะเบียนพรรคการเมืองมีหน้าที่ควบคุมการดำเนินกิจการของพรรคให้เป็นไปตามกฎหมาย นายทะเบียนจะรู้ตลอดเวลาว่า พรรคไหนมีการเพิ่ม-ลดสมาชิก มีการจัดระดมทุน สาขาพรรคขาด ก็จะมีการแจ้งเตือนก่อนครบกำหนดเวลา ไม่ต้องมาตรวจสอบย้อนหลังอะไร
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคประชาชน ยังไม่มีบัญชีธนาคารของพรรค ผู้รับเงินไม่ใช่พรรค และรับบริจาคโดยวิธีออนไลน์ผิดกฎหมายหรือไม่ ต้องดูข้อเท็จจริงก่อน กฎหมายกำหนดว่าเมื่อพรรคการเมืองรับบริจาค ต้องรายงานนายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายใน 15 วัน ขณะที่บัญชีธนาคารของพรรคการเมือง ธนาคารจะไม่ออกเล่มบัญชีให้จนกว่าพรรคการเมืองนั้นจะได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ที่ผ่านมาพรรคการเมืองที่จะตั้งขึ้นใหม่จะประสบปัญหานี้ ไม่สามารถนำเงินที่เป็นทุนประเดิมจัดตั้งพรรคเข้าบัญชีได้ แต่ในส่วนของพรรคประชาชน เปลี่ยนชื่อมาจากพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล จึงมีบัญชีธนาคารของพรรคเดิมอยู่แล้ว ต้องดูข้อเท็จจริงว่าเขารับบริจาคผ่านเข้าบัญชีนี้หรือไม่ หรือเงินบริจาคเข้าบัญชีชื่ออื่นเพราะอะไร
วิธีการรับบริจาคกฎหมายไม่ได้เขียนไว้ ต้องดูว่าข้อบังคับพรรคเขียนอย่างไร ถ้าเขียนว่ารับบริจาคออนไลน์ได้ ก็ทำได้ แต่ก็ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย ได้รับบริจาคไม่น้อยกว่า 5,000 บาท จะต้องมีการออกใบเสร็จให้กับผู้บริจาคภายใน 7 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด แต่ละเดือนต้องติดประกาศรายชื่อผู้บริจาคให้ประชาชนทราบ รวมถึงแจ้งนายทะเบียนทราบด้วย ที่สำคัญการรับบริจาคไม่ว่าจะรับเงินสดหรือออนไลน์ เงินจำนวนมากหรือน้อย พรรคต้องตรวจสอบคุณสมบัติผู้บริจาคด้วยว่าเป็นบุคคลที่กฎหมายห้ามพรรคการเมืองรับบริจาคหรือไม่ เพราะตรงนี้มีโทษถึงขั้นยุบพรรค
เมื่อถามถึงกรณีการคัดค้านไม่ให้นายทะเบียนพรรคการเมือง ตอบรับการเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชน นายแสวง กล่าวว่า กฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ชื่อ ชื่อย่อ ภาพเครื่องหมายของพรรคการเมืองไว้ชัดเจนอยู่แล้ว นายทะเบียนก็ต้องพิจารณาอยู่บนหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด จะใช้ความรู้สึกมาพิจารณาไม่ได้ ขณะนี้ทางพรรคก็ยังไม่ได้ส่งเรื่องดังกล่าวมา