ผบ.ตร.ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย กรณีตำรวจจับกุมหญิงประท้วงนายกฯ ที่ราชบุรี
ผบ.ตร. ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย กรณีตำรวจจับกุมหญิงประท้วงนายกฯ ที่ราชบุรี ไม่ยืนยันปฎิบัติการของตำรวจรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
วันนี้ (14 มี.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจในการควบคุมหญิงเห็นต่างทางการเมืองออกจากพื้นที่ราชการของนายกรัฐมนตรี ที่จังหวัดราชบุรี เมื่อวานนี้ว่า ตำรวจทำหน้าที่ดูแลทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล และเนื่องจากนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำในรัฐบาล การดูแลความปลอดภัยก็ต้องเข้มข้น ซึ่งเป็นหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ในฐานะตำรวจก็ขอความร่วมมือทุกฝ่าย ว่ามีความเห็นต่างได้ แต่ไม่ต้องการให้มีการใช้ถ้อยคำด่าทอรุนแรง หรือพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย
โดยชี้แจงว่าผู้การตำรวจจังหวัดราชบุรีได้ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า มีการกระทำของสตรีท่านหนึ่งวิ่งเข้าไปใกล้รถและเข้าใกล้ตัวซึ่งเป็นอันตราย จึงต้องมีการดำเนินการโดยตำรวจหญิง และได้รับรายงานว่าตำรวจหญิงถูกกัดนิ้ว ย้ำที่จะดูรายงานในข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง เบื้องต้นตำรวจราชบุรีได้มีการดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวแล้ว
“…ในการปฎิบัติหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโน้น กลุ่มนี้ ไม่อยากให้ไปเลียนแบบกัน หากเกิดกลุ่มฝ่ายค้านลงพื้นที่ แล้วกลุ่มที่เห็นต่างกับฝ่ายค้านไปทำพฤติกรรมเช่นเดียวกันก็ไม่ดี อยากให้เน้นในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพราะว่าเหลือเวลาอีกไม่นาน รักใครชอบใครก็ขอให้ไปใช้สิทธิ์เลือกคนนั้นก็แล้วกัน…” ผบ.ตร.กล่าว
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่ากำลังตรวจสอบว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามกฏหมายหรือเกินกว่าเหตุ รุนแรงหรือไม่ จึงขอไม่ยืนยันในข้อมูล การใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่แต่ต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ยอมรับว่าเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงส่วนหนึ่ง ซึ่งจะต้องได้เห็นภาพเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มต้นว่ามีการกระทำอะไรไปก่อนหน้านั้นหรือไม่
ส่วนการที่หญิงรายดังกล่าวจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงบ่ายวันนี้ ถือเป็นสิทธิ์ของบุคคลดังกล่าวที่จะเข้าแจ้งความต่อกองปราบ แต่ทุกคนก็ต้องยอมรับผลของการกระทำของตัวเอง พร้อมย้ำขอความร่วมมือใกล้จะเลือกตั้ง ไม่ต้องการให้มีการกระทำให้เกิดภาพลักษณ์ต่างคนต่างใช้คำด่าทอกัน กังวลว่าในอนาคตจะเกิดการเลียนแบบ ซึ่งไม่ดี
พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กล่าวถึงแผนปฎิบัติการรักษาความปลอดภัยของตำรวจ กรณีที่นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ครั้งต่อไปว่า จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะกังวลว่าฝ่ายกองเชียร์ อาจจะตีฝ่ายที่ไม่เชียร์ ตำรวจจะพยายามทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย และยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันอยู่แล้ว ความเห็นต่างเกิดขึ้นได้ แต่ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง หรือการด่าทอด้วยคำไม่สุภาพ เช่น ตำรวจถูกด่าระหว่างปฎิบัติหน้าที่ ก็อาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หรือการด่าทอนายกรัฐมนตรีระหว่างปฎิบัติราชการก็เข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ก่อนจะฝากทิ้งท้ายว่าการดำเนินการของตำรวจ ในฐานะเจ้าพนักงานปฏิบัติตามหน้าที่ หากมีการออกคำสั่งให้ทำอะไรแล้วไม่ปฏิบัติตามก็เข้าข่ายขัดคำสั่ง หรือหาดไปจับกุมผู้กระทำความผิดแล้วมีการขัดขวางหรือการต่อสู้ก็จะเข้าข่ายต่อสู้ขัดขวางอีก ฝากให้ระมัดระวังในเรื่องนี้ด้วย