POLITICS

‘เพื่อไทย’ จ่อส่งศาลตีความทำประชามติ ถาม ‘ปชน.’ ดันทุรังทำไมทั้งที่รู้ว่าไม่รอด

วันนี้ (14 ก.พ.68) พรรคเพื่อไทย นำโดย นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และ สส. พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวภายหลังการประชุมร่วมรัฐสภา วาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ …) พุทธศักราช … (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1) ล่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

นายสุทิน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสภาเป็นการทำงานต่อเนื่องจากเมื่อวาน (13 ก.พ.68) โดยการรักษาจุดยืนและเป้าหมายของพรรคเพื่อไทย วันนี้ต้องทำต่อให้สำเร็จ เป้าหมายคือเราจะรักษารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไว้ในสภาให้นานที่สุด จะไม่ยอมให้ตก แต่วันนี้ดูท่าทีก็รู้คำตอบแล้วว่า ถ้าพิจารณาและลงมติก็ตก จุดยืนต้องการรักษารัฐธรรมนูญฉบับนี้เพื่อหาลู่ทางในการแก้ไขสำเร็จ วันนี้จึงรักษาไว้ไม่ให้มีการพิจารณาและเราจำเป็นที่จะต้องทำวิธีการที่ไม่ต้องการ คือ ไม่ร่วมประชุม สภาปีะชุมไม่ได้ และทำให้ร่างนี้ยังอยู่ พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการยื่นสู่ศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาตีความอีกครั้งให้ได้

ทำไมต้องให้ศาลตีความ เพราะมีคนไม่เข้าใจเรา และมีพรรคการเมืองบางพรรคพยายามที่จะไม่เข้าใจการแก้ไขที่กำลังยุ่งยากนี้ จนทำให้หลายคนมองว่าไม่สำเร็จ เกิดจากการที่ศาลวินิจฉัยไม่ชัดเจน ทำให้หลายฝ่ายหยิบยกตีความเข้าข้างตัวเอง ฝ่ายที่ไม่อยากแก้ได้ทีนำไปอ้างเข้าข้างตัวเองว่าศาลพิจารณาแบบนี้ แก้ไม่ได้ หากจะแก้ต้องทำประชามติกี่ครั้งก็ว่าไป ความคลุมเครือนี้ถูกฝ่ายที่ต้องการแก้นำไปเป็นความชอบธรรมของตนเอง จนถึงขั้นข่มขู่ว่า ใครเข้าพิจารณามีสิทธิ์โดนคดี ถูกถอดถอน ทำให้สมาชิกหลายคนวิตก นี่คือข้อเสียของความไม่ชัดเจน ส่วนอีกฝ่ายที่อยากแก้อย่างพรรคเพื่อไทย เราตีความว่าแก้ได้โดยการทำประชามติ 2 ครั้ง

ความคลุมเครือทำให้เกิดปัญหาเดิม ความคลุมเครือยังดำรงถึงปีหน้า ศาลยังไม่ชัดเจนก็จะแก้ไม่ได้อีก หากเราเดินหน้าจนหมดแล้วถูกปัดตก ก็ต้องรอสมัยหน้าถึงจะยืนได้ การแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้สำเร็จในมุมมองของพรรคเพื่อไทย ต้องทำให้การวินิจฉัยนี้ชัดเจน หากศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าให้ทำประชามติ 3 ครั้ง นี่คือความชัดเจน พรรคเพื่อไทยก็จะทำ 3 ครั้ง แต่ต้องรอกฎหมายประชามติก่อน หากเราทำตามศาลก็จะเห็นโอกาสความสำเร็จ

การที่เราพยายามให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ศาลตีความ จะเป็นการคลี่คลายความดำมืด และปิดทางคลุมเครือให้ทุกฝ่ายเดินได้ ที่จะได้มากกว่านี้คือหากศาลมีคำวินิจฉัยชัดเจนให้ทำ 2 ครั้งเท่านั้น เราจะเห็นว่าฝ่ายที่อ้างเข้าข้างตัวเอง คนพวกนั้นจะตอบอย่างไรเมื่อศาลชี้แบบนี้ ประชาชนจะได้รู้แจ้งว่าใครมีเจตนาแก้จริง-แก้ไม่จริง

การแก้ไขให้สำเร็จ จะต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่พรรคประชาชนเคยบอกว่ายื่นไปแล้วศาลไม่รับ ศาลให้เหตุผลว่าที่ไม่รับคำร้องเพราะยังไม่เกิดข้อขัดแย้ง เพราะยังไม่เข้าสู่สภา วันนี้จึงทำให้องค์ประกอบครบถ้วน จึงนำยื่นเข้าสภา มีข้อขัดแย้งแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญจะได้เห็นองค์ประกอบที่ครบถ้วน จะได้รับและตีความออกมา ซึ่งเราหวังแบบนี้ เราจำเป็นต้องลงทุน คนที่ไม่เข้าใจเราก็ยอมให้ตำหนิ แต่เชื่อว่าเมื่อจบแล้ว สู่เป้าหมายแล้ว ทุกคนจะเข้าใจเรา

เมื่อถามว่า ญัตติอยู่ในอันดับ 3 โหวตแล้วเลื่อนไม่ได้จะทำอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ญัตติที่ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.เสนอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยเรื่องหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ญัตตินี้ยังอยู่ในสภา แต่ที่ตกคือการเลื่อน ต้องแยกออกจากกัน วิธีแก้ให้เสนอเป็นญัตติใหม่ แต่หากจะรับญัตติใหม่สามารถขอความเห็นจากสภาได้ถ้าองค์ประชุมครบ และมีมติเห็นชอบ และพรรคเพื่อไทยจะไม่ใช้ญัตติของหมอเปรมศักดิ์ จะเข้าชื่อใหม่

เจตนารมย์ของพรรคเพื่อไทยต้องการแก้รัฐธรรมนูญ ทางออกคือลดข้อกังวลของสมาชิกให้ได้ก่อน สส. สว.และหลายพรรคการเมืองก็กังวลกับข้อนี้ และรู้ว่าผิด เราจึงต้องการคำตอบที่ชัดเจน ข้อสองในการพิจารณาประเด็นที่ห่วงที่สุดคือ ถ้าตกจะมีปัญหาว่าเราจะแก้ร่างเพิ่มเติมในสมัยนี้ไม่ได้ ต้องรอสมัยใหม่ ทำให้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น แค่เข้าชื่อ 40 ก็เสนอได้แล้ว

ส่วนแนวโน้มประธานรัฐสภามีสิทธิ์ที่จะเรียกประชุมในปลายเดือน ก.พ.หรือต้นเดือน มี.ค. เหตุผลจำเป็นที่ต้องขอให้รัฐสภาตรวจสอบองค์ประชุมก่อนที่ผู้เสนอญัตติจะแถลง มีสมาชิกหลายคนประกาศไม่เข้าร่วมการประชุม แต่มาทำหน้าที่เป็นองค์ประชุม ลงชื่อเข้าประชุมซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ หากเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะสม ซึ่งตนเองเห็นว่าองค์ประชุมน้อยมาก และพรรคเพื่อไทยมีมติชัดเจน จึงต้องตรวจสอบองค์ประชุม

“ยืนยันว่าญัตติที่จะยื่นใหม่สามารถทำซ้ำในสมัยประชุมนี้ได้ เพราะยังไม่ถูกปัดตก แต่ญัตติของหมอเปรมถูกปัดตกไปแล้ว เราต้องทำใหม่ จะดำเนินการนัดหน้าอีกทีวันไหน เรื่องนี้จะต้องหารือกับประธานรัฐสภา แต่เราจะส่งภายในสัปดาห์นี้“ นพ.ชลน่าน กล่าว

นายสุทิน กล่าวเสริมว่า สิ่งที่เราทำอยู่นี้ได้ประโยชน์ การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีโอกาสสำเร็จ ถ้าพรรคประชาชนมาแถลงข่าวช่วยถามด้วยว่า ”แนวทางที่พรรคประชาชนกำลังเดินมีประโยชน์อย่างไร จะทำให้การแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จอย่างไร ถ้าเดินต่อแล้วตก โอกาสแก้จะสำเร็จได้อย่างไร ประชาชนจะได้เปรียบเทียบกับแนวทางที่พรรคเพื่อไทยเดินอยู่

ส่วนที่พรรคประชาชนตั้งคำถามว่า ทำไมถึงไม่ทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาล และเดินหน้าไปทิศทางเดียวกันนั้น ปัญหาที่เกิดไม่ใช่เสียง สส.ฝั่งรัฐบาล เกิดจากเสียง สว.ส่วนรัฐบาลยอมรับความจริงว่า รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ ทุกพรรคมีจุดยืนของตนเอง พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำ ที่คุณชอบถามหาความเห็นชอบจากนายกฯ ถ้านำรัฐบาลไม่ได้ นายกฯ จะรับผิดชอบยังไง นายกฯ รับผิดชอบโดยให้พรรคเพื่อไทยเสนอเอง แต่ความรับผิดชอบของนายกฯ คือให้พรรคของเขาเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ นี่คือความรับผิดชอบของนายกฯ

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat