นายกฯ คาด กองถ่ายแห่ใช้เงินสร้างหนังในไทยปีหน้าแตะหมื่นล้านบาท

นายกฯ ประกาศแคมเปญแคชรีเบต 30% หลังหารือ 7 บริษัทผู้ผลิตภาพยนต์ คาด กองถ่ายแห่ใช้เงินสร้างหนังในไทยปีหน้าแตะหมื่นล้านบาท
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 เวลา 11.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นนครลอสแอนเจลิสซึ่งช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง) ที่โรงแรม Beverly Wilshire นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรองเพื่อสร้างเครือข่าย ภาคธุรกิจในต่างประเทศ(networking reception) กับ นาย Charles H. Rivkin ประธานและประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐฯ (Motion Picture Association: MPA) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทภาพยนตร์ชั้นนำของสหรัฐฯเข้าร่วมงานโดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยว่า เป็นหนึ่งในภาคส่วนที่จะส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของไทย และสร้างรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งไทยได้เรียนรู้จากสหรัฐฯ ที่มีการใช้ซอฟต์พาวเวอร์ ในทางธุรกิจอันเป็นเศรษฐกิจที่แข็งแรงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก
“ปีที่ผ่านมา มีการถ่ายทำภาพยนตร์กว่า 450 เรื่องจาก 40 ประเทศในประเทศไทยซึ่งสร้างรายได้ประมาณ 190 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ผลิตภาพยนตร์สหรัฐฯ เป็นกลุ่มนักลงทุนอันดับหนึ่งมีถึ ง34 เรื่องไปถ่ายทำในสถานที่ต่างๆทั่วประเทศไทย ทั้งนี้ รัฐบาลได้ส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และการถ่ายทำภาพยนตร์โดยทบทวนมาตรการส่งเสริมต่าง ๆ เช่นการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในรูปแบบของการคืนเงินสูงสุด (cash rebate) ที่อัตราร้อยละ 30 และไม่กำหนดเพดานคืนเงินสูงสุดต่อโครงการอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลไทยในการสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุนในกลุ่มดังกล่าวเป็นอย่างมากโดยเชื่อมั่นว่าปีต่อไปจะมีเม็ดเงินด้านนี้กว่าหมื่นล้านบาท“ นายกรัฐมนตรี กล่าว
นาย Charles H. Rivkin ประธาน และประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐฯ (Motion Picture Association: MPA) ซึ่งมีธุรกิจสตรีมมิงและบันเทิงในเครือ อาทิ Netflix Disney HBO เป็นต้น ได้กล่าวชี่นชมนโยบาย ของรัฐบาล ไทยในการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการถ่ายทำภาพยนต์ รัฐบาลยิ่งเพิ่มแรงจูงใจให้กับอุตสาหกรรมภาพยนต์ในระดับสากลทำให้ไทยเป็นตัวเลือกของสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ต่างประเทศ ที่มีความโดดเด่น ในภูมิภาคได้มากขึ้น และจะช่วยรับประกันการลงทุนในอนาคตที่มากขึ้น ทั้งนี้ ยังรู้สึกตื่นเต้นมากหากจะได้ร่วมงานกับประเทศไทยมากขึ้น โดยบริษัทได้เข้ามาลงทุนถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเฉลี่ยประมาณ 1.3 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน และช่วยเสริมสร้างความรู้ในการ ถ่ายทำภาพยนตร์และสร้างงานในท้องถิ่น ซึ่งมั่นใจว่าพบปะหารือเพิ่มเติมในวันนี้ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับทั้ง 7 บริษัทที่มาในวันนี้จะสามารถให้การสนับสนุน Soft Power ของไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมภาพยนต์ไทยได้เป็นอย่างดี นายจิรายุกล่าว
สำหรับ ผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทภาพยนตร์ทั้ง 7 บริษัท ที่ได้ร่วมพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ดังนี้
- นายชาร์ลส์ เอช. ริฟกิน (Charles H. Rivkin) ประธานและ CEO สมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐฯ
- นางสาว แคธลีน ทาฟฟ์ (Cathleen Taff) ประธาน ฝ่ายจัดจําหน่าย, แฟรนไชส์ และการวิเคราะห์ผู้ชม, บริษัท Walt Disney
- นายเจย์ โรว์ (Jay Roewe) รองประธานอาวุโส ฝ่ายการวางแผนการผลิตและสิ่งจูงใจ บริษัท HBO/HBO MAX และ Warner Bros. Pictures
- นายเวอร์นอน แซนเดอร์ส (Vernon Sanders) หัวหน้าฝ่ายโทรทัศน์บริษัท Amazon/MGM Studios
- นายคริส มิลเลอร์ (Chris Miller) ที่ปรึกษาทั่วไป บริษัท NBCUniversal Studio Group 6. นายเดวิด ไฮแมน (David Hyman) หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย บริษัท Netflix Studios
- นางสาวจิล แรตเนอร์ (Jill Ratner) ที่ปรึกษาทั่วไป บริษัท Sony Pictures Entertainment
- นางสาวแชรอน คีย์เซอร์(Sharon Keyser) รองประธานอาวุโส ฝ่ายความสัมพันธ์กับรัฐบาลและการวางแผนบริษัท Paramount Pictures Corporation