นายกฯ เยี่ยมศูนย์พักพิงแม่สาย ชาวบ้านสวมกอดร่ำไห้

นายกฯ เยี่ยมศูนย์พักพิงแม่สาย ชาวบ้านสวมกอดร่ำไห้ ไม่เหลืออะไรแล้ว ด้าน นายกฯ ปลอบ เหลือชีวิต และกำลังใจ เยี่ยมโรงครัวพระราชทาน แซว ขอเช็คไฟก่อน และมอบถุงยังชีพให้ประชาชน

วันนี้ (13 ก.ย. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางมายังวัดพรหมวิหาร อำเภอแม่สาย ซึ่งเปิดเป็นศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประสบภัย เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบภัย โดยเมื่อมาถึงนายกได้เข้าไปนั่งพูดคุยและสวมกอดชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเข้ามาสวมก่อนและร่ำไห้ ด้วยความดีใจที่นายกรัฐมนตรี ไม่ทอดทิ้ง โดยชาวบ้าน ระบุว่า ชาวบ้านลำบากมาก แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่ยอมออกจากบ้าน โดยเฉพาะคนแก่ จึงอยากให้รัฐบาลประกาศ ย้ำหากมีพายุเกิดขึ้น ออกให้ออกมาขอให้ชาวบ้านที่ไม่ยอมออกจากบ้านให้ออกจากพื้นที่เพื่อรักษาชีวิตไว้ แต่ที่คนไม่ยอมออกจากบ้าน เนื่องจากเมื่อน้ำลดก็มีขโมยเกิดขึ้น เมื่อมีข่าวเช่นนี้ชาวบ้านก็ไม่อยากจะทิ้งบ้านกัน

นายกรัฐมนตรี หันไปสั่งการนางสาวธีรรัตน์ กำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้าดูแล และหันมากล่าวกับชาวบ้านต่อว่า จากนี้รัฐบาลจะเร่งเข้ามาดูแลเรื่องการเยียวยาให้ดีที่สุด และทราบดีถึงความเร่งด่วนของประชาชนในการเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งต่างร่ำไห้ ระบุว่า ไม่เหลืออะไรแล้ว หมดตัวแล้ว ร้องไห้จนไม่รู้จะร้องยังไงแล้ว ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาแล้ว นายกรัฐมนตรี บอกว่า แค่นี้ก็เก่งแล้ว ยังเหลือชีวิต และเหลือกำลังใจที่ต่างคนต่างมอบให้กัน ต่อมาชาวบ้าน ระบุว่า ยังมีผู้สูงอายุที่ติดอยู่ในพื้นที่ ยังออกมาไม่ได้ นายกรัฐมนตรี จึงให้เจ้าหน้าที่ทหารขอรายละเอียดเพื่อเข้าไปช่วยเหลือนำชาวบ้านออกจากพื้นที่

นายกรัฐมนตรี ยังได้ไปพูดคุยให้กำลังใจกับหญิงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นชาวไทยใหญ่ โดยเข้าไปจับที่ท้อง พร้อมสอบถามว่า จะคลอดเมื่อไหร่ ขอให้แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก

นายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมโรงครัวพระราชทาน และโรงครัวจิตอาสาตำรวจจังหวัดเชียงราย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยได้มองเตาแก๊ส ก่อนจะพูดแซวว่า “ขอเช็คไฟก่อนว่ามีไฟหรือไม่” ขณะที่แม่ครัวได้ทำเมนูกะหล่ำปลีผัดไข่ โดยนายกรัฐมนตรี บอกว่า เป็นเมนูโปรด และอย่างนี้เด็ก ๆ ก็ทานได้ ทั้งนี้ แม่ครัวได้ขอให้นายกรัฐมนตรี ทำไข่เจียว แต่นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธ และระบุเพียงว่า “แค่มาดู” โดยนายกรัฐมนตรี ได้ทดลองผัดเมนูไก่กระเทียม พร้อมระบุว่า ตะหลิวอันนี้หนักมาก

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้มอบถุงยังชีพจากสำนักนายกรัฐมนตรี และยาจากกระทรวงสาธารณสุข โดยกล่าวกับประชาชน พร้อมกล่าวให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ว่า สวัสดีพ่อแม่พี่น้องชาวแม่สายทุกท่าน เมื่อกี้ไปข้างในนั้นมา ได้เจอหลายคน ก่อนหน้านี้ได้ไปดูในสถานที่มา ก็ทราบว่าทุกคนเจอหนัก รอบนี้หนักจริง ๆ วันนี้ที่มาก็อยากมาให้กำลังใจกับทุกคน และอยากที่จะเน้นย้ำในเรื่องของเหตุการณ์หลังจากนี้ เพราะเหตุการณ์ทุกวันนี้ เรามีอาหาร มีหน่วยงานความมั่นคง มีจิตอาสา ที่เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ยังติดอยู่ คอยส่งอาหาร ซึ่งได้รับข้อมูลมาว่ากระแสน้ำเริ่มเบาลง และพรุ่งนี้จะเบาลงอีก เพราะฉะนั้น คนที่ติดอยู่ข้างใน จะมีโอกาสช่วยออกมาได้เยอะขึ้น ซึ่งเราก็ย้ำแล้วว่า ถ้าช่วยไม่ได้ ขออย่างน้อยให้ส่งอาหาร และน้ำเข้าไปถึง เพื่อจะได้มีแรงรอให้กระแสน้ำลดลง มิฉะนั้น รอนาน ๆ ก็จะหิวแย่

วันนี้ขอพูดจากใจว่า ทุกคนเก่งมาก ที่วันนี้ยังยิ้มอยู่ รู้เลยว่าเหตุการณ์หนัก บางคนบอกว่าไม่เหลืออะไรแล้ว แต่จริง ๆ ยังเหลือชีวิต ยังเหลือกำลังใจ ยังเหลือความหวัง สิ่งที่เหลืออยู่ในวันนี้ อยากให้ภูมิใจในตัวเองด้วยว่า เก่งจริง ๆ เจอเรื่องขนาดนี้แล้ว ยังอยู่ตรงนี้ ยิ้มกันได้ มารับกันได้ เก่งมาก ๆ ในส่วนตนเอง และคณะรัฐมนตรีที่จะช่วยได้คือหลังจากนี้ ในเรื่องของการเยียวยา และที่บ้านพักต่าง ๆ ที่มีดินโคลนเลอะเทอะ จะพยายามเร่งดูแลส่วนนี้ให้เร็วที่สุด ให้ทุกคนกลับไปอยู่แบบเดิมได้เร็ว ๆ และอยากให้การเยียวยาเข้าถึงทุกคนอย่างรวดเร็วที่สุด พูดจากใจอยากให้มันเร็วจริง ๆ เพราะทุกคนรอมานานแล้ว 2-3 วันนี้เรื่องน้ำค่อย ๆ ดีขึ้นแล้ว ทนกันอีกนิดนึงนะ ขอให้กำลังใจในวันนี้ด้วยความจริงใจ ขอให้ให้กำลังใจ มาถ่ายรูปหรือกอดกันก็ได้ และขณะนี้มีการประชุมสภา ทุกคนส่งกำลังใจมา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านก็ขอให้ทุกคนมีแรงมีกำลังใจเยอะ ๆ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพให้กับพี่น้องประชาชนซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ”นายกฯ สวยจังเลยค่ะ“ และมีชาวบ้านอวยพรให้นายกฯแข็งแรงและอยู่เป็นนายกฯ นาน ๆ