‘ส.ว.ประพันธ์’เตือน ส.ส.เสนอชื่อ ‘พิธา’ อาจมีความผิดร้ายแรง
‘ส.ว.ประพันธ์’เตือน ส.ส.เสนอชื่อ ‘พิธา’ อาจมีความผิดร้ายแรง มองปัญหาเรื่องคุณสมบัติ วิญญูชนก็วินิจฉัยได้ ไม่ต้องรอศาล
วันนี้ (13 ก.ค. 66) นายประพันธ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา กล่าวอภิปรายก่อนการลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีว่า ได้ฟังการอภิปรายของเพื่อนสมาชิกด้วยความซาบซึ้งและเข้าใจในปัญหาของบ้านเมือง วันนี้เป็นวันที่มีความหมายและสำคัญ เป็นวันที่สมาชิกรัฐสภาจะได้ทำหน้าที่พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ ซึ่งเป็นผู้นำสูงสุดในการบริหารประเทศ
พวกเรามีที่มาแตกต่างจาก ส.ส. แต่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 114 พวกเราทั้งสองฝ่าย ย่อมเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย การทำหน้าที่ของเราต้องไม่อยู่ภายใต้การครอบงำ ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชน ส.ส.มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ส.ว.ก็มาจากประชามติของประชาชนเราต่างมีฐานที่มาจากประชาชน เราเคารพและให้เกียรติ ส.ส. และฟังเสียงของประชาชนที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หวังว่าท่านจะเคารพและให้เกียรติการทำหน้าที่ของ ส.ว.ด้วย ไม่ว่าพวกเราจะให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบ
นายประพันธุ์ ย้ำว่าไม่มีอคติกับบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อให้ความเห็นชอบเป็นนายก มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมมนูญมาตรา 160 โดยชัดแจ้ง มีลักษณะต้องห้ามเป็นไปตามมาตรา 98 (3) ต้องไม่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน และไม่ต้องคำพิพากษาจำคุกถูกคุมขัง ไม่เป็นบุคคลที่อยู่ในระหว่างการต้องห้าม ดังนั้นการเสนอชื่อนายพิธา เป็นการเสนอชื่อบุคคลโดยชอบหรือไม่
ปัญหาคุณสมบัติของนายพิธาเมื่อวานนี้ กกต.มีมติยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. เป็นข้อเท็จจริงที่แสดงให้เห็นโดยปราศจากข้อสงสัยว่านายพิธา เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม เป็นความเห็นอันเป็นข้อยุติของ กกต.ซึ่งมองว่าสมาชิกภาพของนายพิธาสิ้นสุดแล้ว
ในชั้นพิจารณารัฐสภาเราต้องพิจารณาว่า การที่นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้เสนอชื่อนายพิธา เป็นการเสนอชื่อบุคคลที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ บุคคลที่ถูกเสนอชื่อมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามแล้วธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งอาจมีคนแย้งว่าขนาดนี้ศาลยังไม่มีคำวินิจฉัยเป็นที่สุด ปัญหานี้ไม่จำเป็นต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะปัญหาเรื่องคุณสมบัติเป็นเรื่องที่วิญญูชนสามารถวินิจฉัยได้
“หากรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กฎหมายคงไม่เขียนไว้เช่นนี้ ท่านต้องเซ็นเซอร์ ตรวจสอบตนเอง ท่านจบ ม. 6 หรือไม่ หากไม่จบก็ต่อมหาวิทยาลัยมิได้ ไม่เห็นต้องรอให้ศาลวินิจฉัย”
นายประพันธุ์ ระบุว่าบุคคลที่เสนอชื่อมา รัฐสภาไม่อาจรับไว้พิจารณาเพื่อโหวตได้ เนื่องจากเป็นการเสนอบุคคลที่มีคุณสมบัติขัดต่อกฎหมายลักษณะต้องห้ามตาม หากรัฐสภาลงมติให้ความเห็นชอบย่อมขัดต่อกฎหมายสูงสุดของประเทศและขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภา อาจถูกดำเนินคดีตามมาตรา 231 (1) จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจโดยขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามประมวลจริยธรรมของ ส.ส.
การจะนำชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามไปนำความกราบบังคมทูลเพื่อให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ การกระทำดังกล่าวย่อมเป็นที่ระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลบาทเป็นสิ่งที่สภาฯ มิบังควรที่จะกระทำ