POLITICS

เพื่อไทย ประกาศนโยบายแก้วิกฤต PM 2.5 ‘จักรพล’ ท้า ‘ประยุทธ์’ ถอดแมสก์ตอนไปเชียงใหม่

วันนี้ (13 มี.ค. 66) ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมการนโยบาย PM2.5 และ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงนโยบายแก้วิกฤตปัญหา PM 2.5 ของพรรคเพื่อไทย

นายจักรพล ระบุว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่รุนแรง สร้างความเสียหายให้กับประเทศนับล้านบาท สูญเสียชีวิต 3.2 หมื่นคน ใน จ.เชียงใหม่ มีหมอหนุ่มที่เสียชีวิตทั้งที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ไปจนถึงเด็กที่เลือดกำเดาไหลตลอดเวลา ความรุนแรงของฝุ่นทำให้คนที่ไม่สูบบุหรี่ เหมือนสูบบุหรี่ 9 มวนต่อวัน มีปัญหาด้านการหายใจ และการมองเห็น

นายจักรพล ยังกล่าวว่า ในวันที่ 17 มี.ค. นี้ ที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ขอให้ลองไปใช้ชีวิตโดยไม่ใส่หน้ากากอนามัยดูว่าจะรอดชีวิตไปได้นานแค่ไหน จะได้เข้าใจความลำบากของประชาชน

นายจักรพล กล่าวถึง พ.ร.บ. อากาศสะอาดว่า พ.ร.บ. ดังกล่าว เหลืออยู่ฉบับเดียวในสภาฯ คือฉบับที่พรรคเพื่อไทยเสนอ ขอให้ตีตกไปเลย แต่ขอท้าว่ายังมี พ.ร.บ. อีกฉบับ ที่ภาคประชาชนยื่นเข้ามา หวังให้รัฐบาลนำมาศึกษา โดยเลิกอ้างว่าเป็น พ.ร.บ. การเงิน หรือ พ.ร.บ. สิ่งแวดล้อม ประชาชนขอเพียงอากาศบริสุทธิ์ที่เป็นสิทธิพื้นฐานของคนไทยตั้งแต่แรกคลอด ไม่ได้ขออะไรไปมากกว่านั้นเลย และขอให้ติดตามคำสั่งศาลปกครอง ที่มีประชาชนฟ้องร้องรัฐบาลกรณีขาดนโยบายและมาตรการเพื่อให้ประชาชนมีอากาศสะอาด ในวันพรุ่งนี้ด้วย

นายปลอดประสพ กล่าวว่า หากเราพึ่งพารัฐบาล ปัญหาอาจจะแก้ไม่หาย หรือไม่ก็หายไปเองพร้อม ๆ กับรัฐบาลประยุทธ์ เพราะดูจากที่ พล.อ. ประยุทธ์ เคยกล่าวไว้ว่า ปัญหามาจากประชาชน แล้วก็ไม่อยากใช้กฎหมาย ให้แก้ไปตามกระบวนการ ตนเองมองว่า หากนายกพูดแบบนี้ก็ไม่ต้องมีความหวังอะไรแล้ว

นายปลอดประสพ ระบุว่า เพื่อประเทศชาติ และความผาสุขของประชาชน หากรัฐบาลนี้จะนำข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยไปปฏิบัติก็ยินดี โดยย้ำว่า ต้องมีหลักคิด หรือยุทธศาสตร์ ต้องถือสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติ ให้ความสำคัญสูงสุด ต้องแก้ไขในระดับโครงสร้าง คือแก้กฎหมายให้สอดคล้องกับปัญหานี้ ให้ความสำคัญเทียบเท่ากับสถานการณ์โควิด-19 ดังนี้

1) ออกกฎหมายอากาศสะอาด บนหลักคิดว่าประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของอากาศเท่าเทียมกัน ต้องเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านอย่างรอบด้าน ทำข้อตกลงไม่ให้ประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นต้นตอของมลภาวะทางอากาศ จนกระทบกับประเทศใกล้เคียง

2) ต้องมีผู้ใช้อำนาจเด็ดขาดตัดสินใจ คือกรมควบคุมมลพิษ และกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เช่น ปิดเมือง ปิดการจราจร ไม่ให้ออกจากบ้าน ในวันที่คาดว่าจะเกิดเหตุ

3) มีซุปเปอร์บอร์ดเพื่อกำกับดูแลในระดับชาติ ในกรณีที่ปัญหาสำคัญมาก

4) กองทัพและกระทรวงมหาดไทยทุกองคาพยพ ต้องถือเป็นหน้าที่ในการดับไฟป่า ให้ยืมเครื่องบินอย่างเดียวไม่พอ ต้องส่งกำลังพล ดังที่เคยทำมาแล้วในสถานการณ์น้ำท่วม

5) สำหรับ PM 2.5 ในเมือง ต้องมีมาตรการระยะยาว เช่น ส่งเสริมรถพลังงานสะอาด จัดการพื้นที่พิเศษ ควบคุมการก่อสร้าง และการเผารอบเมือง ต้องออกงบซื้อเครื่องฟอกอากาศไปติดตั้งในทุกโรงเรียน

6) สำหรับ PM 2.5 ในป่า ต้องฟื้นสำนักป้องกันไฟป่า งานดับไฟป่าต้องทำทั้งปี ไม่ใช่เพียงเฉพาะฤดูไฟป่า ต้องออกมาตรการห้ามเผาโดยเด็ดขาด ตนเองเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ใช้กฎหมายเด็ดขาดกับทุกเรื่อง แต่สำหรับเรื่องนี้กลับบอกไม่อยากใช้กฎหมาย

ทั้งนี้ นายปลอดประสพ กล่าวทิ้งท้ายว่า พรรคเพื่อไทยขอให้ตนเองส่งเทียบเชิญ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมองว่า ผู้ว่าฯ ควรปรึกษาหารือกับพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยเพราะน่าจะได้ประโยชน์ พรรคเพื่อไทยขอใช้โอกาสจองความเป็นรัฐบาล ให้ผู้ว่าฯ เข้าหารือกันตั้งแต่ตอนนี้เลย

Related Posts

Send this to a friend