‘คอรีเยาะ’ รับทราบข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตอกเจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายกลั่นแกล้งผู้เห็นต่าง
‘คอรีเยาะ มานุแช’ เข้ารับทราบข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตอกกลับเจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายกลั่นแกล้งผู้เห็นต่าง ยืนยันสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญและกติกาสากล
วันนี้ (13 ม.ค. 65) ที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี นางสาวคอรีเยาะ มานุแช นายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน เข้ารายงานตัวตามหมายเรียกที่ได้รับเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 64 ให้รับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จากการร่วมเวทีเสวนา “ราษฎรพิพากษา” เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 64 ณ แยกราชประสงค์ โดย น.ส.คอรีเยาะ ทราบว่ามีผู้ได้รับหมายเรียกจากเหตุเดียวกันทั้งสิ้น 17 คน
น.ส.คอรีเยาะ เปิดเผยว่า วันนี้ตั้งใจมาปฏิเสธข้อกล่าวหา เนื่องจากการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนย่อมแสดงออกทางการเมืองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ความคุ้มครองของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง นอกจากนี้ พื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ที่ได้รับการยกเว้นข้อกำหนดควบคุมการจัดกิจกรรมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
“เราจึงเห็นว่าการที่เจ้าหน้าที่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ดำเนินคดีอาญาอย่างแพร่หลาย เป็นการจงใจกลั่นแกล้งกับผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง ไม่เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินไปตามกระบวนการยุติธรรมที่มี ก็เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่จะใช้กฎหมายอย่างถูกทิศถูกทาง อย่างวิสัยทัศน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะใช้กฎหมายให้ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา” น.ส.คอรีเยาะ ย้ำถึงความเห็นต่อการดำเนินคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
“เรายืนยันมาตลอดว่าประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ ทั้งตามกฎหมายภายใน คือที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และทั้งกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี อย่างกติกาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เราเชื่อมั่นว่าหลักกฎหมายต่าง ๆ ต้องถูกนำมาปฏิบัติ ไม่ใช่เป็นเครื่องมือลิดรอนเสรีภาพประชาชน กฎหมายเหล่านี้มีศักดิ์ใหญ่กว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และปัจจุบันสถานการณ์โควิดก็ควบคุมได้บ้างแล้วตามที่รัฐบาลบอก ไม่มีสถานการณ์ร้ายแรงที่ต้องอ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาควบคุมกิจกรรมทางการเมือง” นายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน กล่าวก่อนเข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี
คอรีเยาะ มานุแช นายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน