‘เศรษฐา’ สวนกลับ ‘ชวน’ ไม่รู้จักกันดีพอเรียกชื่อผิดเป็น ‘เชษฐา’
ขอบคุณที่ให้โอวาท ยันแม้ไม่มี สส.ภาคใต้แต่จะไม่เลือกปฏิบัติ ให้ความสำคัญปัญหาความรุนแรงชายแดนใต้ไม่ต่างกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันนี้ (12 ก.ย.66) เวลา 17:40 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงการอภิปรายของ นายชวน หลีกภัย สส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายว่า นายกฯ เลือกปฏิบัติในพื้นที่ที่ต่างกัน
นายเศรษฐา กล่าวว่า ผมขอบคุณอดีตนายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย ที่ได้ให้โอวาท แนะนำข้อควรระวังในการดำรงตำแหน่ง ซึ่งท่านอาจไม่รู้จักผมดีพอ เพราะในช่วงต้น ท่านเรียกชื่อผมผิด ผมชื่อเศรษฐา ไม่ใช่เชษฐา ท่านกรุณาบอกเบื้องหลังว่าผมทำอะไรมาก่อนให้แก่สมาชิกได้รับทราบ แม้ผมจะเป็นนักธุรกิจมาก่อน แต่การมาอยู่ตรงนี้ ผมรักประเทศชาติ และมีความต้องการที่จะเห็นพี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
“การที่ผมมายืนตรงนี้ ดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรติ อยู่ในรัฐสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ ผมมีความตั้งใจ มาด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง ด้วยความตั้งใจที่จะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ตอนนี้มีความรู้ประมาณหนึ่งถึงปัญหาที่พี่น้องเผชิญอยู่ในเรื่องการสูญเสีย 7,500 กว่าชีวิตในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ไปในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เราเห็นตรงกันว่า ความสูญเสียไม่ควรเกิดขึ้น” นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวว่า วิธีการแก้ไขปัญหา หรือการนำไปปฏิบัติในอนาคต อาจเห็นต่างกัน เพราะรัฐบาลที่มาจากประชาชน โดยพรรคร่วมทั้ง 11 พรรค ให้ความสำคัญกับความสงบสุขในพื้นที่ภาคใต้ ไม่น้อยไปกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเลือกปฏิบัติเป็นข้อถกเถียงกันมานาน
“หลังจากเข้ามาในวงการการเมือง ก็ได้ยินท่านอดีตนายกฯ ชวนพูดถึงเรื่องการปฎิบัติ ผมคงไม่ไปถกเถียงกับท่าน พร้อมยอมรับ จากที่ได้พูดมา ผมก็มีข้อมูลของผม เหตุการณ์สึนามิในสมัยนายกฯ ทักษิณ ก็เข้าไปดูแลพื้นที่ กินอยู่ที่นั่น ดูแลทั้งพี่น้องชาวภูเก็ต และจังหวัดข้างเคียงอย่างสุดความสามารถ จนเป็นที่ชื่นชมของชาวโลก” นายเศรษฐา กล่าว
นอกจากนั้น นายเศรษฐา ยังยืนยันว่า การเลือกปฏิบัติ โดยผู้บริหารสูงสุดของประเทศ ถือว่าเป็นสิ่งที่มิบังควร เราเป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชนทั้งประเทศ ไม่ว่ารัฐบาลนี้จะมี สส. ในภาคใต้ หรือไม่มีก็ตาม แต่เป็นความตั้งใจอันสูงสุดของตน ในฐานะนายกรัฐมนตรีต้องให้ความเป็นธรรม ความเสมอภาค ความเท่าเทียมกับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน
นายเศรษฐา ยืนยันว่า ตั้งแต่ยังไม่ได้รับอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน จังหวัดแรกที่เลือกลงพื้นที่คือจังหวัดภูเก็ต แม้ว่าพรรคร่วมหรือพรรคเพื่อไทยจะไม่มี สส. ในพื้นที่ แต่เราก็ให้ความสำคัญกับพื้นที่นั่น เชื่อว่าการกระทำเป็นสิ่งพิสูจน์ได้ดีกว่าคำพูด ว่ารัฐบาลนี้จะบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร ซึ่งในอีกสองสัปดาห์ก็จะลงพื้นที่ไปทำงานอีก ซึ่งขณะนี้ สามารถสั่งการทำงานได้แล้ว ก็จะไปดูเรื่องโครงสร้างพื้นฐานความเป็นไปได้ในการสร้างสนามบินนานาชาติภูเก็ต ซึ่งทางทีมงานได้เสนอมาว่าให้ใช้คำว่าสนามบินอันดามัน ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงจังหวัดพังงา จังหวัดระนอง และอื่น ๆ ด้วย ซึ่งไม่มี สส. ของพรรคเพื่อไทยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเลยแม้แต่คนเดียว
“ดังนั้น จึงขอยืนยันว่า การมาดำรงตำแหน่งนี้ เจตนารมณ์ชัดเจน ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่นำพา รัฐบาลที่เป็นของประชาชนคนไทยทุกคน” นายเศรษฐา กล่าวทิ้งท้าย