POLITICS

‘ชัยธวัช’ แถลงโต้ กกต.หลังเร่งรัดส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ ‘พิธา’

‘ชัยธวัช’ แถลงโต้ กกต.หลังเร่งรัดส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ ‘พิธา’ แฉผู้บริหารไอทีวีแจงแล้วไม่ได้ดำเนินกิจการสื่อ จ่อฟ้องกลับ ม.157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่

ภายหลัง กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย

ล่าสุดนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นำทีม ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงข่าวถึงการดำเนินการของ กกต.หลังมีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา สิ้นสุดลงหรือไม่ จากเหตุถือหุ้นไอทีวี และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาให้นายพิธา ยุติการปฏิบัติหน้าที่ มองว่า กกต.ดำเนินการไม่ถูกต้องตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนไต่สวน และการชี้ขาดประเด็น นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เคยอธิบายว่าดำเนินการตามมาตรา 82 เทียบเคียงกับกรณีเงินกู้ยุบพรรคอนาคตใหม่ หาก กกต.เห็นว่ามีมูลต้องแจ้งให้นายพิธา ทราบข้อกล่าวหาก่อน แต่ กกต.กลับจงใจเลือกปฏิบัติตามระเบียบ กกต.เพียงบางส่วน อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

นายชัยธวัช ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด กกต.จึงเร่งดำเนินการอย่างผิดปกติ ทั้งที่มีข้อถกเถียงในสังคมอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ กกต.ได้เชิญผู้บริหาร บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) มาชี้แจงแล้ว ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่าไอทีวีไม่ได้ดำเนินธุรกิจสื่อ แต่กลับไม่เชิญนายพิธา มาชี้แจงเพื่อให้ กกต.พิจารณาข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านเป็นธรรม ซึ่งพรรคก้าวไกลอยู่ระหว่างการพิจารณาเตรียมยื่นฟ้องมาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่กับ กกต.

“รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม ถ้าระบบราชการไทยทำงานเช่นนี้ทุกหน่วยงาน ประเทศชาติเจริญแน่นอน อดไม่ได้ที่สังคมจะตั้งคำถามกับ กกต. เร่งรีบส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญทันทีเพื่อให้ทันการประชุมประจำสัปดาห์ตอนบ่ายนี้ เพื่อให้นายพิธาถูกสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ใช่หรือไม่”

หลายปีที่ผ่านมาบทบาทขององค์กรอิสระ เป็นที่สงสัย เป็นเครื่องมือของกลุ่มการเมืองใดกลุ่มการเมืองหนึ่ง ขอฝากถึง กกต.อย่าลุแก่อำนาจจนเกินขอบเขต วันใดวันหนึ่งการเมืองปกติิประชาชนจะลงโทษทุกท่าน พร้อมย้ำว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตนเอง และ ส.ส. เพื่อนสมาชิกพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลยืนยันว่าจะไม่กระทบกับการเสนอรายชื่อนายพิธาเป็นนายกฯคนที่ 30 ในวันพรุ่งนี้แน่นอน นายพิธายังมีสิทธิ์ 100% ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ และผู้ได้รับคะแนนเสียงอันดับ 1 จากการเลือกตั้ง ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าตระหนกตกใจ ความชอบธรรมที่สูงสุดคืออำนาจของประชาชน พรรคก้าวไกลมีหน้าที่รับผิดชอบเสียงพี่น้องประชาชนผ่านการเลือกตั้ง เราจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดจนสุดความสามารถ

นายชัยธวัช ระบุว่าปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้เป็นขบวนการที่หวังผลทางการเมือง เชื่อว่าจะมี ส.ว.จำนวนมากพอที่มีสติ มีวิจารณญาณ ความเป็นธรรม และวิจารณญาณว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ยังไม่เพียงพอจะสรุปว่านายพิธา มีความผิด อยู่ข้างความถูกต้อง ใช้เอกสิทธิตามเสียงของตนเองตามเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ กระบวนการตรวจสอบของ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ เป็นคนละเรื่องกับการลงมติของรัฐสภา แต่ก็มักจะมีหลายฝ่ายใช้เหตุนี้มาขอเลื่อนการโหวตนายกฯ เชื่อว่าประธานรัฐสภามีหลักที่ชัดเจน

พรรคก้าวไกลยังไม่มีแผนสำรองอะไร ยังเดินตามเดิม ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งอย่างไร นายพิธา ยังมีสิทธิถูกต้องตามรัฐธรรมนูญในการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ตามเดิม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สิ่งที่หวังมากที่สุดก็คือพี่น้องประชาชนที่อยู่ข้างนอก เชื่อว่ามีบางฝ่ายต้องการให้นายพิธา ไม่ได้เป็นนายกฯ โดยไม่เห็นแก่บ้านเมือง ไม่เห็นหัวประชาชน ส.ส.พรรคก้าวไกลที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จะทำให้ดีที่สุดในการปกป้องเสียงของประชาชน

“เราจะวนกลับไปสู่การเมืองที่ไม่เห็นหัวประชาชนเหมือนเดิม หรือเราจะคืนความปกติให้กับระบอบประชาธิปไตยของไทย และพาประเทศไทยไปข้างหน้า ผู้มีอำนาจมีสิทธิที่จะเลือก และผมเชื่อว่าประชาชนจะไม่ยอม”

Related Posts

Send this to a friend