POLITICS

‘หมอระวี’ ยอมถอยไม่ยื่นศาล รธน.ต่อ ลั่นขอสู้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

‘หมอระวี’ ยอมถอยไม่ยื่นศาล รธน.ต่อ ลั่นขอสู้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์หาร 100 ชม ‘ยุทธพงศ์’ เก่งสร้างสีสัน ยันไม่ไปร่วมดินเนอร์

วันนี้ (12 พ.ค. 65) นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ (พธม.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ… กล่าวถึงประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของตนพิจารณาเมื่อวานนี้ (12 พฤษภาคม) ว่า เมื่อศาลไม่พิพากษาในเรื่องนี้ก็ถือว่าสงครามนี้จบแล้ว ประเทศไทยต้องใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ซึ่งก็ต้องขอบคุณกำลังใจจากประชาชนทั้งประเทศ แต่ก็ขอแสดงความเสียใจกับกลุ่มพรรคเล็กและประชาชนที่ยังต้องการให้มีบัตรเลือกตั้งใบเดียวตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 60 ซึ่งก็ยอมรับว่านักกฎหมายและตนเองได้ใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว ก่อนจะยื่นก็ได้วิเคราะห์ว่าในประเทศไทยมีใครที่น่าจะถูกละเมิดสิทธิจากการใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ซึ่งก็ไม่พบ แต่พบว่าพรรคเล็กน่าจะกระทบโดยตรงมากที่สุด

นพ.ระวี กล่าวต่อว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าพรรคเล็กไม่ถูกกระทบโดยตรงเราก็เคารพศาลรัฐธรรมนูญ แม้จะมีคำถามว่าใครได้รับผลกระทบ มีส่วนได้ส่วนเสีย และหลังจากนี้พรรค พธม. ก็จะไม่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญต่ออีก โดยคาดว่านายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่เตรียมยื่น เมื่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญออกมาเมื่อวานนี้ก็คาดว่าจะไม่ยื่นแล้ว ทั้งนี้ แสดงความยินดีกับพรรคการเมืองและบุคคลที่ต้องการให้เป็นบัตร 2 ใบที่ได้แก้ไขได้สำเร็จแล้ว แต่ในส่วนของพรรคเล็กก็จะต้องสู้ในระบบบัตร 2 ใบ

นพ.ระวี กล่าวต่อว่า สำหรับวันนี้การประชุม กมธ.จะพิจารณาเรื่องระบบการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อว่าจะหารด้วย 100 หรือ 500 ตนในฐานะตัวแทนกลุ่มพรรคเล็กก็จะพยายามสุดความสามารถ ซึ่งในชั้นกมธ.จะสู้ด้วยเหตุและผล ส่วนผลจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับ กมธ.ซึ่งจะโหวตในช่วงบ่าย เนื่องจากช่วงเช้ามีหลายมาตรา

ทั้งนี้ แม้มติจะออกมาหารด้วย 100 หรือ 500 ฝ่ายที่แพ้ก็จะสงวนคำแปรญัตติและไม่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญอีก โดยจะสงวนคำแปรญัตติไปสู้ในสภาฯ เมื่อเปิดวาระ 2-3 ซึ่งคาดว่าจะเป็นต้นเดือนมิถุนายน ฝ่ายที่แพ้ก็จะไปสู้ในสภาฯ ใหญ่ เพราะวาระ 2 ก็จะโหวตทีละมาตรา โดยวาระ 3 จะไม่มีรายละเอียดแล้ว มีแค่จะรับหรือไม่รับ หลังจากจบ 3 วาระแล้วถือว่ารัฐสภาได้ลงมติ เมื่อเสร็จสิ้นตามข้อบังคับกฎหมาย กฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับก็จะถูกส่งไปองค์กรอิสระ ซึ่งองค์กรที่เกี่ยวข้องคือ ศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อจะดูว่าร่างที่รับรองโดยสภาฯ มีประเด็นอะไรที่เป็นปัญหาอีกหรือไม่ หากไม่มีก็จบและสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ ซึ่งเมื่อส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ฝ่ายที่แพ้ก็จะส่งเหตุผลแนบท้ายไปด้วยเพื่อเป็นเหตุผลให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา แต่ก็ไม่มั่นใจว่าฝ่ายใดจะแพ้ อยู่ที่เหตุผลที่จะสู้กัน และหลังจากนี้ก็จะไม่ยื่นนอกรอบอีก

นพ.ระวี ยังกล่าวถึงทิศทางการเมืองหลังจากเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบด้วยว่า กลุ่มพรรคเล็กรอดูจะวาระ 2-3 ว่าจะหารด้วย 100 หรือ 500 หากมติออกมาหาร 500 ชนะ เชื่อว่ากลุ่มพรรคเล็กทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ ก็จะลงสนามสู้ต่อ เพราะจะคล้ายกับรัฐธรรมนูญปี 60 แต่หากออกมาหาร 100 ชนะ กลุ่มพรรคเล็กก็อาจจะยุบ คงจะสู้ไม่ไหว เพราะคะแนนเฉลี่ยบัญชีรายชื่อเฉลี่ย 370,000 คะแนน ในขณะที่ส.ส.เขตหากได้ 20,000 กว่าก็เป็นส.ส.ได้แล้ว ซึ่งพรรคเล็กก็น่าจะยุบ และเหลือบางส่วนที่น่าจะควบรวมกัน

ทั้งนี้ ต้องไปดูหลังวาระ 3 ยืนยันว่า พธม.จะสู้ต่อแม้จะหารด้วย 100 เพราะต้องการให้เป็นระบบที่เน้นส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องพูดตามตรงว่า พธม.ไม่มีเงินเขตละ 20-30 ล้านที่จะไปลงเลือกตั้ง เพราะเป็นระบบธนาธิปไตยแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ. ล้วนแต่ใช้เงินมหาศาล พธม.พร้อมที่จะลงสนามในระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และหารด้วย 100

ส่วนกรณีที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่าตนจะไปร่วมรับประทานอาหารกับพรรคเล็กและนายยุทธพงศ์ด้วยนั้น นพ.ระวี ปฏิเสธว่า “คงไม่ไปหรอกครับ” โดยกล่าวว่า นายยุทธพงศ์จะสนิทกับนายมนูญ แม้ตนจะสนิทกับนายมนูญเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน แต่ข่าวที่ออกมาไม่คิดว่านายยุทธพงศ์จะเอาไปแถลงข่าว เพราะเป็นการคุยกับเล่นๆ ว่านายยุทธพงศ์ชวน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) แต่ไม่ชวนตนบ้างเลย ซึ่งเป็นการคุยสนุกสนานไม่คิดว่าจะเอาไปแถลงข่าว มองว่าเป็นการเอาไปเพิ่มสีสันให้นายยุทธพงศ์และจริงๆ ก็คุยกันมากกว่านั้น พร้อมชื่นชมว่านายยุทธพงศ์เก่งที่สร้างสีสันทางการเมืองได้มากขนาดนี้

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat