‘พ.ต.อ.ทวี‘ ย้ำ สั่งการ ’ราชทัณฑ์‘ ให้ความร่วมมือตำรวจ สอบสวนการเสียชีวิต อดีต ผกก.โจ้ เต็มที่

‘พ.ต.อ.ทวี‘ ย้ำ สั่งการ ’ราชทัณฑ์‘ ให้ความร่วมมือ ตำรวจ สอบสวนการเสียชีวิต อดีต ผกก.โจ้ เต็มที่ หวัง ปฏิรูประเบียบราชทัณฑ์ทั้งหมด ให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ ชี้ กระแสข่าว อดีต ผกก.โจ้ โวยวาย หลังญาติเข้าเยี่ยมก่อนเกิดเหตุนั้น ระบบการเยี่ยมมีการบันทึกเสียงไว้ทั้งหมด แต่เปิดเผยสู่สาธารณะไม่ได้
วันนี้ (12 มี.ค. 68) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ว่า ตนได้สั่งการให้ทางกรมราชทัณฑ์ให้ความร่วมมือกับตำรวจ และเร่งรัดให้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว และตรงไปตรงมา ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์นั้นจะดูเรื่องการสอบสวนภายใน แต่การสืบสวนสอบสวนคดีการเสียชีวิตนั้นเป็นของตำรวจ
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ขณะที่ญาติได้เข้าเยี่ยมอดีตผู้กำกับโจ้ ผู้คุมได้มีการถ่ายคลิปอดีตผู้กำกับโจ้โวยวายสติหลุด ว่ามีข้อมูลหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า โดยปกติเรือนจำทุกแห่ง จะมีการบันทึกการสนทนาขณะที่ญาติเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง แต่หลักฐานทั้งหมดจะต้องถูกเก็บเป็นความลับ แต่หากเป็นเหตุการณ์ และมีหน่วยงานที่ต้องการใช้ตามกฎหมาย ทางเราก็ให้ความร่วมมือ ซึ่งหากเป็นทนายความเข้าไปคุยกับผู้ต้องขังเกี่ยวกับคดีนั้นจะไม่มีการบันทึกการสนทนา
ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่า พบข้อความสนทนาบางอย่างที่อาจนำไปสู่แรงจูงใจในการก่อเหตุ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ขอให้เป็นเรื่องในกระบวนการสอบสวน
สำหรับภาพกล้องวงจรปิดจะสามารถเปิดให้ประชาชนได้หรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อยู่ที่พนักงานสอบสวน เพราะกรมราชทัณฑ์ได้ส่งภาพกล้องวงจรปิดทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว แต่ในส่วนที่ตำรวจขอภาพกล้องวงจรปิดย้อนหลังก่อนเกิดเหตุ 1 สัปดาห์นั้น ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานว่า การขอพยานหลักฐานติดขัดปัญหาตรงไหน ซึ่งตนได้ย้ำกับตำรวจไปแล้วว่าหากติดปัญหาในส่วนไหนให้แจ้งมาทันที ทางกรมราชทัณฑ์ยินดีให้ความร่วมมือ
ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวน กล่าวว่า ขณะที่เข้าไปพบศพนั้น พบว่าศพไม่ได้อยู่ในสภาพที่แขวนคอแล้ว จึงยากต่อการชันสูตรพลิกศพ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า เรื่องนี้ต้องมีการปฏิรูปทั้งหมด เพราะตามระเบียบ เจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพเท่านั้นที่จะแตะศพได้คนแรก ยกเว้นกรณีการเข้าไปช่วยเหลือก่อนเสียชีวิต โดยการเข้าไปต้องรอให้ครบ 4 หน่วย แต่กรณีนี้ที่มองว่ากว่าจะได้เข้าไปนั้นล่าช้า ก็ต้องดูเหตุผลว่า ทำไมพอเป็นเวลากลางคืนแล้วจึงช้า แต่ย้ำว่า ตนไม่ปล่อยให้มีการทำลายพยานหลักฐาน และเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพมีความรู้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการสอบ ผบ.เรือนจำ และผู้คุมนั้น พ.ต.อ.ทวี เผยว่า ขณะนี้กำลังเร่งรัด โดยให้ทางปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นหัวหน้าคณะในการตรวจสอบว่าจะเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายฯ หรือไม่ โดยจะมีหน่วยงานภายนอกร่วมตรวจสอบด้วย แต่ในส่วนที่เมื่อวานนี้ทางญาติได้ไปร้องกับดีเอสไอ จะมีการพิจารณาเป็นคดีพิเศษหรือไม่นั้นก็จะต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีแม่ไปร้องที่ดีเอสไอ ว่าลูกชายติดคุกคดียาเสพติดที่เรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี และถูกผู้คุมทำร้ายโดยมีหลักฐานเป็นจดหมาย หวั่นว่าจะซ้ำรอยอดีตผู้กำกับโจ้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตนทราบว่ามีเหตุการณ์เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี 67 และยังมีอีกหลายคนที่มาร้องในลักษณะเดียวกัน ก็ถือเป็นโอกาสดี เนื่องจากระบบราชการจะต้องมีความโปร่งใส และตรวจสอบได้ ซึ่งเรื่องที่มีการร้องเรียนก็จะต้องมีการสอบสวน ตนต้องการให้เรือนจำเป็นสถานที่พัฒนาผู้ต้องขังเพื่อให้กลับสู่สังคมได้