ผบ.ตร.ขอเวลาไม่เกิน 2 วัน ออกหมายจับ - ถอนประกัน กลุ่มป่วนขบวนเสด็จฯ

ผบ.ตร.ขอเวลาไม่เกิน 2 วัน ออกหมายจับ - ถอนประกัน ม.112 กลุ่มป่วนขบวนเสด็จฯ เชื่อ เป็นขบวนการในประเทศ ชี้ มีคนอยู่เบื้องแนะเลี่ยงข้อกฎหมาย ลั่น ตำรวจทุกนายถวายความปลอดภัยด้วยชีวิต
พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีการเข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง วานนี้ว่า นายกรัฐมนตรีเรียกไปพบพร้อมกำชับ เรื่องการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จฯ ถ้ามองในมุมของคนนอกก็เป็นห่วง ที่เหมือนจะมีช่องว่าง แต่ขอให้เชื่ออย่างหนึ่งว่าขบวนเสด็จฯ มีการวางระบบไว้ค่อนข้างจะดี แต่เราไม่สามารถบอกได้เพราะคนจะทราบหมดว่ามีการวางไว้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ผบ.ตร. กล่าวว่าตนเองได้ยืนยันกับนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ว่าการถวายการรักษาความปลอดภัยองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า และพระบรมวงศานุวงศ์ มีการวางระบบ แต่การที่จะมีกลุ่มเห็นต่างเข้ามาแสดงออกลักษณะเช่นนี้ ตนเองก็ได้กำชับตั้งแต่วันแรกว่าเราจะดำเนินคดีตามพยานหลักฐานที่มี โดยไม่ต้องรอให้สื่อมวลชนถาม ตนเองเชื่อว่า เยาวชนที่ออกมา ไม่ได้ออกมาเอง แต่มีขบวนการที่อยู่ข้างหลัง ซึ่งขอเวลาทางตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน และในวันที่ทำคดีเสร็จ ทุกคนก็จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีค่อนข้างละเอียด โดยตนเองได้มีการย้ำกับทีมว่าอย่าเร่งทำ เพราะไม่เช่นนั้นเดี๋ยวจะผิดพลาด ฉะนั้นขอเวลาอีก 2 วัน เดี๋ยวจะเห็นการแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับ พร้อมยืนยันว่ากรณีดังกล่าวจะมีการจับกุมดำเนินคดีอย่างแน่นอน โดยขณะนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกำลังรวบรวมพยานหลักฐานและเร่งรัดพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการ เพื่อปิดข้อครหาทั้งหมด และให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพราะเราไม่อยากให้นำมาเป็นประเด็นโจมตีสถาบันฯ ด้วย พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีการสั่งการแต่ดำเนินการตามหลักฐานและขอให้เชื่อมั่นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“เรื่องการถวายความปลอดภัยพวกเรา(ตำรวจ) ดูแลพระองค์ท่านด้วยชีวิต พวกพี่ดูแลด้วยชีวิตของพวกพี่จริงๆ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเยาวชน 2 คนที่ก่อเหตุมีคดีติดตัวอยู่จะดำเนินการอย่างไร พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ระบุว่าขณะนี้พนักงานสอบสวนของ บช.น.กำลังดำเนินการอยู่ ขอรออีก 2 วันเพื่อให้พยานหลักฐานใหม่ ในการแจ้งข้อกล่าวหาให้เสร็จสิ้น และยอมรับว่าจะมีการขอถอนประกัน
ส่วนจะออกหมายจับมากกว่า 2 คนหรือไม่นั้นพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ปฏิเสธการตอบคำถามโดยระบุว่า ขอให้ดำเนินการในเบื้องต้นก่อน และวานนี้ตนก็ได้รายงานนายกรัฐมนตรีไปหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมว่าระหว่างการรอถอนประกันเยาวชน กลุ่มดังกล่าวอาจจะเคลื่อนไหวยังพื้นที่อื่น ผบ. ตร.ระบุว่า เรามีการดูแลติดตามเขาอยู่ และอย่างเมื่อวานนี้ที่มีเหตุการณ์ปะทะ 2 ฝ่าย เราก็ติดตามดูอยู่ แต่อย่างไรก็ตามการแสดงพฤติกรรมที่ห้างสรรพสินค้าจะเห็นได้หลายอย่างว่าเขามีการเตรียมการ ซึ่งยังไม่ได้แสดงอะไรบางอย่าง เหมือนมีการเตรียมการเพื่อไม่ให้ผิดข้อกฎหมายในบางข้อ พร้อมเชื่อว่าเขามีคนที่ให้คำแนะนำ แต่จะมีนักการเมืองอยู่ด้วยหรือไม่นั้นตนเองไม่ขอยืนยัน แต่ยืนยันว่าในทางสอบสวนมีบุคคลช่วยเหลือให้คำปรึกษาและไกด์ไลน์อย่างแน่นอน
ส่วนจะเอาผิดผู้อยู่เบื้องหลังได้มากน้อยเพียงใดขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ และในทุกการกระทำที่เขาดำเนินการ
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงปฏิกิริยาของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความล่าช้า พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ระบุว่า
“โอ้โหอย่างพี่หรอ ไม่เอาจริงเอาจัง เรื่องถวายความปลอดภัย น้อง (สื่อฯ) ก็รู้ว่าพี่ดูแลเรื่องนี้มานานมาก ไม่ต้องห่วงครับ เราบอกแล้ว ข้าราชการทุกคนเป็นข้าราชการในพระองค์ที่ดูแลความปลอดภัย มันเป็นภารกิจข้อแรกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ดูแลความปลอดภัย ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ มันเป็นสิ่งที่พวกพี่ต้องทำเป็นข้อแรกเลยของข้าราชการตำรวจ ไม่ต้องห่วง พี่ทำให้ไม่มีข้อครหาและให้ความยุติธรรมทุกฝ่าย”
เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวมีการกระทำความผิดซึ่งหน้า ผบ.ตร.ระบุว่า ทางตำรวจสืบตั้งแต่ก่อนมีเหตุการณ์ระหว่างมีเหตุการณ์และหลังมีเหตุการณ์ ไม่ใช่แค่ซึ่งหน้าเท่านั้น ซึ่งการแจ้งข้อกล่าวหาตรงนี้ จะทำให้ข้อกล่าวหาแตกต่างกันมาก และประเด็นดังกล่าวก็อาจจะเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเพิกถอนประกันต่อศาลได้ พร้อมย้ำว่าไม่เกิน 2 วัน ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว
ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าที่ออกมาไม่ได้หิวแสง หรือรังแก และที่ออกมาช้าก็อยากจะทำให้ละเอียด พร้อมย้ำว่าจะไม่มีการหว่านหรือรังแก หากสอบพยานถึงใครก็คนนั้น
เมื่อถามว่าขบวนการดังกล่าวอยู่เพียงในประเทศหรือรวมถึงต่างประเทศด้วยนั้น ผบ.ตร. ระบุว่า มีเพียงในประเทศเท่านั้น
ในช่วงท้าย ผบ. ตร.ระบุว่าหากพยานหลักฐานสาวไปถึงใครเราก็จะเรียกมาทั้งหมด และจากการสอบสวนมีแนวทางว่า มีคนช่วยเหลืออย่างแน่นอน
ส่วนจะเรียกผู้อยู่เบื้องหลังมาพูดคุยหรือไม่นั้น ผบ.ตร. ยืนยันว่า ขณะนี้ได้รายงานนายกรัฐมนตรีไปแล้วและอยู่ระหว่างการดำเนินการอีกขั้นหนึ่ง