’ภราดร‘ ย้ำ จะเป็นรองประธานสภาฯ ของทุกคน ไม่ใช่พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง
’สรวงศ์‘ เสนอ ‘ภราดร‘ นั่ง รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ด้าน ’ภราดร‘ ย้ำ จะเป็นรองประธานสภาฯ ของทุกคน ไม่ใช่พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง เพื่อสร้างศรัทธาความเชื่อมั่น และเกียรติยศให้กับสภาแห่งนี้ ให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของพี่น้องประชาชน
วันนี้ (12 ก.ย. 67) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 23 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ในวาระการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และคนที่ 2 นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.จังหวัดสระแก้ว พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นเสนอชื่อ นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เป็นรองประธานสภาคนที่ 2
ด้านนายภราดร ได้ลุกขึ้นกล่าวว่าตนเองรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการเสนอชื่อจากเพื่อนสมาชิก โดยกล่าวขอบคุณพรรคภูมิใจไทย และวิปรัฐบาล ให้ได้ดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรติ ในฐานะผู้ช่วยประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ และเป็นเกียรติต่อคนอ่างทอง พร้อมกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า ตนเองใช้เวลาที่นี่ 17 ปี ทำงานที่นี่ ผูกพันกับองค์กรแห่งนี้ จนเปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 ของตน เมื่อที่นี่เป็นเหมือนบ้าน ตนเองก็อยากจะเห็นบ้านหลังที่ 2 ของตน มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และเป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของพี่น้องประชาชน
นายภราดร กล่าวต่อว่า การจัดสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน ไม่ใช่จะเกิดจากรองประธานสภาทั้งสองคน แต่เกิดขึ้นจากสมาชิกรัฐสภาทั้ง 493 ชีวิตที่เหลืออยู่ ในฐานะประธาน และรองประธานสภา พวกเรามีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับเพื่อนสมาชิก ในการแสดงศักยภาพของตนเองให้สูง ช่วยให้เพื่อนสมาชิกได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และตนให้คำมั่นสัญญากับสภาฯ ว่า “ตนจะไม่เป็นรองประธานสภาของพรรคภูมิใจไทย ตนจะไม่เป็นรองประธานสภาของฝ่ายรัฐบาล แต่ตนเป็นรองประธานสภาของสภาแห่งนี้ และของเพื่อนสมาชิก 439 คน”
อีกทั้ง ตนจะทำหน้าที่ในฐานะผู้ช่วยของประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ จะทำหน้าที่ที่ประธานมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เต็มกำลังสติปัญญาของตน จะยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะช่วยประธานทำหน้าที่ในสภาแห่งนี้ให้เป็นสภาของพี่น้องประชาชน พื้นที่ทั้งในส่วนอาคารและสถานที่ประชาชนจะต้องได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่จะทำให้ประชาชนเข้ามาได้ใช้ประโยชน์กับอาคารสถานที่ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
นอกจากนี้ ประชาชนยังต้องเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของผู้แทนราษฎรให้ได้มากที่สุด และเป็นสภาที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และขอย้ำว่าตนจะไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ ในการฉวยโอกาสสร้างประโยชน์ทางการเมืองให้กับพรรคการเมืองหรือตนเอง จะไม่เป็นรองประธานสภาของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ไม่เป็นรองประธานสภาของฝ่ายรัฐบาล แต่จะเป็นรองประธานสภาของเพื่อนสมาชิกทุกคน
นายภารดร กล่าวในช่วงท้ายว่า จากวันนี้เป็นต้นไป จนกระทั่งวันสุดท้ายของการปฎิบัติหน้าที่ ตนเองไม่รู้ว่าจะทำหน้าที่ได้ดีในสายตาของใครได้มากน้อยเพียงใด แต่ขอยืนยันกับเพื่อนสมาชิกว่าตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะทำหน้าที่ร่วมกับประธาน และเพื่อน สส. ทั้งหมด เพื่อสร้างศรัทธาความเชื่อมั่น และเกียรติยศให้กับสภาแห่งนี้ ให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของพี่น้องประชาชน
