POLITICS

เครือข่ายคนรุ่นใหม่ฯ ร้อง ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการทำงานของ กกต.

‘ตัวแทนเครือข่ายคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม’ ร้อง ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการทำงานของ กกต. หลัง เลือกตั้งล่วงหน้า พบพิรุธหลายจุด ด้านประชาชน ร่วมลงชื่อถอดถอนกกต. เพิ่มขึ้นกว่า 4 แสนรายชื่อ

วันนี้ (11 พ.ค. 66) ตัวแทนเครือข่ายคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม ยื่นหนังสือร้องเรียนคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่สำนักงาน ป.ป.ช. หลังพบการเลือกตั้งล่วงหน้าส่อแววทุจริต

ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้จัดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้า และการเลือกตั้งนอกเขตขึ้นเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ทางตัวแทนกลุ่มเล็งเห็นว่าการดำเนินการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตดังกล่าวเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่โดยไม่สุจริต หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 224 (2) จึงขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 234(1) โดยพบความผิดปกติดังนี้

1.การปฏิบัติหน้าที่โดยความบกพร่องในการเปิดให้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า ในช่วงวันสุดท้ายเว็บไซต์ของการลงทะเบียนล่ม ส่งผลให้ผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนไม่สามารถลงทะเบียนการใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตตามกฎหมายได้

2.การปฏิบัติหน้าที่โดยความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ในวันเลือกตั้งล่วงหน้ากระทบสิทธิทางการเมืองของประชาชนอย่างร้ายแรง คือ ผู้ที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตแล้วแต่เสียสิทธิในการเลือกตั้งเนื่องจากไม่ปรากฏชื่อในบัญชี, กรรมการการเลือกตั้งประจำหน่วยเขียน เขต และรหัสหน้าซองเลือกตั้งผิด ซึ่งอาจทำให้ผลคะแนนอาจไม่สะท้อนเจตนารมณ์ของผู้ใช้สิทธิอย่างแท้จริงและเกิด “บัตรเขย่ง”, ข้อมูลผู้สมัครและพรรคไม่ครบ, กรรมการการเลือกตั้งประจำหน่วยขัดขวางการสังเกตการณ์ของประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน และการปิดผนึกซองบรรจุบัตรออกเสียงลงคะแนนไม่ถูกต้อง

จากข้อเท็จจริงดังกล่าวที่ปรากฎขึ้นในหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตนั้น แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องในหน้าที่ และคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่สามารถปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ จึงขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวว่าเป็นการขัดต่อบทบัญญัติกฎหมายหรือไม่

นายพิศิษฐ์ พัฒนกิจจำรูญ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ เป็นผู้มารับหนังสือ พร้อมระบุว่าทางสำนักงาน ป.ป.ช.จะเร่งดำเนินการตรวจสอบต่อไป โดยเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอาจมาจากความไม่พร้อมของ กกต.ทำให้มีปัญหาในทางปฏิบัติ จึงเกิดการตั้งคำถามจากตัวแทนกลุ่มว่าการปฏิบัติหน้าที่โดยที่ไม่พร้อม นับว่าเป็นการทุจริตหรือไม่ ซึ่งนายพิศิษฐ์ ระบุว่าต้องดูที่เจตนาเป็นหลัก ทาง ป.ป.ช.ไม่สามารถตอบแทนได้

ด้านนางสาววศินี บุญที ตัวแทนเครือข่ายฯ ระบุต่อว่า การทำงานของ กกต. ในครั้งนี้ นับว่าย่ำแย่ลง อย่างการจ่าหน้าซองบัตรเลือกตั้งผิดจะส่งผลให้เกิดบัตรเขย่ง ซึ่งเป็นกรณีเดียวกันกับการเลือกตั้งในปี 62 โดยจากการลงชื่อถอนถอน กกต. ในเว็บไซต์ change.org ภายหลังจากวันที่ 7 พ.ค. นั้นมีตัวเลขเพิ่มขึ้นกว่า 4 แสนคน สะท้อนถึงความโกรธแค้นของประชาชน และความตื่นตัวในการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้คือความหวังของหลายคน ทาง กกต.ควรทำงานให้ถูกต้อง และฝากไปถึงประชาชนให้ช่วยกันจับตาการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. นี้

Related Posts

Send this to a friend