‘กิตติศักดิ์’ ยืนยัน สว.พร้อมซักฟอกรัฐบาล 25 มี.ค.นี้
‘กิตติศักดิ์’ ยืนยัน สว.พร้อมซักฟอกรัฐบาล 25 มี.ค.นี้ เผย มีประเด็น ‘ทักษิณ’ ขออย่ากลัวถูกฟ้อง ค้าน ‘ยิ่งลักษณ์’ กลับไทยหากไม่รับโทษ หวั่นเป็นฟางเส้นสุดท้าย ลั่นไม่เห็นด้วยเด็ดขาด ถ้านิรโทษกรรมให้คน ๆ เดียว
วันนี้ (11 มี.ค. 67) นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมวุฒิสภาถึงการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 ของสมาชิกวุฒิสภา ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ว่าสมาชิกที่เข้าชื่อไว้ตอนนี้ 36 คน มีความพร้อมมาก ยกเว้นตนเองที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการพิจารณาเวลาผู้ที่จะอภิปราย ส่วนจะอภิปรายด้วยหรือไม่ ขอให้ติดตามดู ส่วนที่มี สว.อภิปรายเพียง 36 คน เนื่องจากมีเวลาที่จำกัด ตั้งแต่ 09.00-24.00 น. เท่านั้น การแบ่งเวลาตอนนี้ สว.ได้อภิปรายทั้งหมด 12 ชั่วโมง และฝ่ายรัฐบาลขออภิปราย 3 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการอภิปรายจะมีประเด็นของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่าก็มีอยู่เยอะ แต่ตนเองไม่ทราบว่าผู้ที่จะอภิปรายจะกลัวนายทักษิณฟ้องหรือไม่ แต่คิดว่าทำงานตรงนี้ทุกคนคงต้องพร้อม โดยเฉพาะตนพร้อมมาก จะไปสอนลูกหลานอย่างไรหากละเมิดกฎหมายทุจริตกันแล้วกลับบ้านหน้าตาเฉย และยังให้ลูกน้องส่งสัญญาณว่า ถ้าใครพูดเรื่องนี้จะฟ้อง ตนคิดว่าจากความกลัวจะกลายเป็นไม่กลัว ขณะนี้มีการฟ้องเรียบร้อยแล้ว เท่าที่ทราบมีอดีต สส.คนหนึ่งลงภาพนายทักษิณเตะกระสอบทรายแล้วกลับมาถึงไทยก็ป่วย
กรณีที่นายทักษิณมีกำหนดการเดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่ นายกิตติศักดิ์ มองว่า ‘นายทักษิณเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก’ การแสดงแบบนี้ได้ไปไหนต่อไหนได้ ตนไม่ทราบจริง ๆ ว่าตกลงกับฝ่ายไหนหรือไปดีลกับใคร แต่ในฐานะที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยต้องเอาความจริงบอกประชาชน และคิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลก
เมื่อถามถึงกำหนดการของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไปเชียงใหม่ในช่วงเวลาเดียวกับนายทักษิณ นายกิตติศักดิ์ ถามกลับว่า “นายกฯ คนไหน” เห็นเขาว่ามีตั้งหลายคน นักข่าวตอบว่า “นายกฯ เศรษฐา” นายกิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ ความบังเอิญไม่มี มีแต่การวางแผนไว้ทั้งนั้น แต่ต้องเห็นใจนายเศรษฐาที่ตะเวนไปรอบโลก สื่อมวลชนหรือประชาชนก็เห็นว่าเอาสาระไม่ค่อยจะได้ เป็นประโยชน์อะไรกับประชาชนในการใช้งบประมาณไปรอบโลก ใช้งบมากแต่ผลงานยังจับต้องไม่ได้
นายกิตติศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่มีกองเชียร์จะไปต้อนรับนายทักษิณที่เชียงใหม่ว่า เป็นเรื่องธรรมดา ตนไปก็มีคนไปรับ แต่การที่ไปอย่างนั้นก็ไม่รู้สึกแปลก เพราะมี FC ไม่ว่าจะเป็น “นายกฯ ทักษิณ” หรือ “นายกฯ เศรษฐา” หรือ “ว่าที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร)” ไปก็ต้องมี FC เป็นเรื่องธรรมดา แต่ผู้ที่ไปที่มีตำแหน่งนั้นมีความละอายใจหรือไม่เหมาะสมหรือไม่ ต้องคิดและพิจารณา
นายกิตติศักดิ์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับไทยโดยใช้โมเดลเดียวกับนายทักษิณว่า “เป็นห่วง” หากว่าเป็นจริงเกรงว่าจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับประเทศไทย อะไรจะเกิดตนไม่ทราบ แต่คิดว่าควรหยุด ควรพอแค่นายทักษิณ หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะกลับมาโดยไม่ต้องรับโทษ เกรงว่าความอดทนของคนจะสิ้นสุด
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าเป็นห่วงเรื่องอะไร นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า เป็นห่วงในเรื่องความขัดแย้ง ซึ่งความขัดแย้งที่เกิดขึ้นของประชาชนคนไทย ต้นตอมาจากนายทักษิณ ถ้าพูดไปแล้วนายทักษิณจะฟ้องก็ฟ้องได้เลย ถ้านายทักษิณสร้างความแตกแยกของคนไทยแล้ว ยังมาซ้ำเติมโดยนำผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้จำคุก ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกศาลพิพากษาให้จำคุก 5 ปี และยังมีคดีอื่นที่รอคำพิพากษาเดินทางกลับประเทศมาโดยไม่ต้องติดคุก ย้ำว่า “กลัวจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ประชาชนจะสิ้นสุดความอดทน”
สำหรับโอกาสการเดินทางกลับประเทศไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นไปโดยง่ายหรือไม่ หากใช้เกณฑ์พักโทษเช่นเดียวกับนายทักษิณที่ยังอายุไม่ถึง นายกิตติศักดิ์ มองว่าไม่ง่าย นายทักษิณยังพอกล้อมแกล้ม เอาสีข้างเข้าถูไปได้ แต่สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนมองไม่ออกว่าเข้ามาแล้วไม่ติดคุก จะเอาเหตุผลใดมา หากจะใช้ช่องทางนิรโทษกรรม ใครจะทำ พรรคการเมืองไหนจะทำ
ปี 2557 ก็มีการนิรโทษกรรมสุดซอย ตนคิดว่าไม่ใช่หลักของกฎหมาย ต่อไปใครฆ่าคน ค้ายาบ้า ก็นิรโทษกรรมให้หมด และถ้าทุจริตซึ่งไม่ใช่ทุจริตธรรมดา รวมถึงทำผิดกฎหมายเล็กน้อย ศาลตัดสินจำคุก 3 เดือน 6 เดือน ยังติดคุกจริง แต่หากกรณีของนักการเมืองและอดีตนายกรัฐมนตรีกระทำผิดโดยศาลพิพากษาแล้ว ถ้าจะนิรโทษกรรมตนขอเสนอนิรโทษกรรมให้กับนักโทษกว่า 200,000 คน หรือนักโทษทั้งประเทศ ตนจะเป็นคนเดียวและเป็นคนแรกที่ยกมือให้ นี่คือจากใจจริง แต่ถ้านิรโทษกรรมคนเดียว “ไม่เห็นด้วยเด็ดขาด”