‘อุ๊งอิ๊ง’ เปิดตัว ‘เศรษฐา’ ปราศรัยครั้งแรกเวทีพิจิตร
‘อุ๊งอิ๊ง’ เปิดตัว ‘เศรษฐา’ ปราศรัยครั้งแรกเวทีพิจิตร ถึงเวลาลาธุรกิจ ทำเพื่อบ้านเมืองในนาม ‘เพื่อไทย’ หลังประเทศสูญเสียมา 8 ปี
วันนี้ (11 มี.ค. 66) พรรคเพื่อไทย ปราศรัยใหญ่ “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” ณ วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยว่า จังหวัดพิจิตรเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะมีแนวทาง เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ทำให้รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น รวมถึงการพักหนี้ 3 ปี โดยพรรคเพื่อไทยจะใช้แนวทาง 3 ดี คือ ดินดี-น้ำดี เมล็ดพันธุ์ดี และราคาสินค้าเกษตรดีขึ้นยกแผง นอกจากนี้ ยังมีนโยบายใช้ blockchain และเทคโนโลยีมาช่วยประชาชน ให้มีเงินทุนทำการเกษตรได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนเรื่องที่ดินทำกิน พรรคเพื่อไทยมี 4 แนวทาง คือ ใช้เทคโนโลยีแบ่งเขตให้ประชาชนมีที่ดินทำกินอย่างเท่าเทียมกัน จัดสรรที่ดินให้สำหรับคนที่ยังไม่มี แก้กฎหมายให้เป็นธรรมกับประชาชน และจัดสรรที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้ให้ประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน
นางสาวแพทองธาร ยังย้ำว่า พรรคเพื่อไทยเล็งเห็นปัญหา และพร้อมที่จะแก้ไขให้ประชาชนในทุกช่วงวัย ทุกอาชีพ พร้อมขอให้เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้ง 3 เขต ให้เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค
ในช่วงท้าย นางสาวแพทองธารได้บอกกับผู้ฟังปราศรัยว่าวันนี้ยังมีความพิเศษ โดยแนะนำ นาย เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และหนึ่งในทีมเศรษฐกิจของพรรค โดยขอให้ประชาชนมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแน่นอน
นายเศรษฐา เริ่มต้นปราศรัย โดยการขอบคุณนางสาวแพทองธาร ที่ให้โอกาสร่วมขึ้นเวทีวันนี้ เพื่อพบปะพี่น้องชาวพิจิตร รู้สึกเป็นเกียรติและอบอุ่นที่ได้รับการตอบรับที่ดี ถือเป็นความภูมิใจเป็นอย่างมาก
จากนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า มีหัวใจที่รักประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เอาเผด็จการ ยึดมั่นแต่ระบอบประชาธิปไตย วันนี้ถึงเวลาแล้วที่นักธุรกิจที่สะสมประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ต้องก้าวมาจากวงการธุรกิจมาทำงานเพื่อบ้านเมือง 8 ปีที่ผ่านมาเป็นระยะเวลายาวนานมากและสูญเสียอะไรหลายอย่าง ทั้งรายจ่ายเพิ่ม รายได้ลด ยาเสพติดระบาดหนัก ลูกหลานไม่เห็นอนาคต คนย้ายถิ่นฐานออกไป คนไม่อยากมีลูกเพราะไม่เห็นอนาคตที่สดใส คนแก่คนเฒ่าที่เกษียณอายุมีเงินเก็บก็ไม่พอที่จะเลี้ยงดูตัวเองอย่างมีความสุขและอย่างมีศักดิ์ศรีในสังคม
ประเทศไทยเคยเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย แต่วันนี้เราทดถอยไม่มีเวทียืนในเวทีโลก ผู้นำประเทศไม่เคยออกไปเปิดตลาดโลก ขายสินค้าใหม่ใหม่ ซึ่งถือเป็นความคับแค้นใจของพวกเรา
8 ปีที่ผ่านมาเพียงพอแล้ว ดังนั้น วันที่ 7 หรือ 14 พฤษภาคมนี้ อาจจะเป็นวันเลือกตั้ง หากไม่พอใจกับสิ่งที่เป็นมา 8 ปี ถึงเวลาที่จะต้องเดินเข้าคูหากาพรรคเพื่อไทยทั้งคนและพรรค ไม่ปันใจให้คนอื่นเพราะหากมีพรรคอื่นเข้ามาร่วมเป็นรัฐบาลเราจะไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายที่เราคิดมาได้ หากไม่สามารถขับเคลื่อนได้ประชาชนก็จะไม่สามารถได้ในสิ่งที่พรรคเพื่อไทยสัญญาไว้
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทยนำนโยบายมาสู่ความรุ่งเรืองของประชาชน วันนี้พรรคเพื่อไทยภายใต้สโลแกน คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน มาขอคะแนนเสียงจากประชาชนเพื่อมุ่งไปสู่เเลนส์สไลด์ ส่วนตัวอยากเห็นประเทศชาติมีอนาคต มีแสงสว่างที่ดี นำพาลูกหลานไปสู่อนาคตที่สดใส จึงขอให้ชาวพิจิตรเลือกพรรคเพื่อไทยให้เเลนส์สไลด์